“แกรนท์ ธอนตัน” เผยนักธุรกิจไทยยังเชื่อมั่น ศก. ปีนี้โตต่อเนื่อง 4% จากผลกระตุ้นลงทุนโครงการขนาดใหญ่-EEC
แกรนท์ ธอนตัน ประเทศไทย เผยผลสำรวจธุรกิจนานาชาติ (Grant Thornton’s IBR) ชี้ตัวเลขความเชื่อมั่นนักธุรกิจในประเทศไทยไตรมาส 4/60 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม 8% เป็น 10% โดยเหล่านักธุรกิจต่างคาดหวังถึงความสามารถในการทำกำไร (18%) และรายได้ (36%) ที่น่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในปี 61 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/60 อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคสำคัญที่นักธุรกิจมองว่าอาจส่งผลให้ธุรกิจชะลอการขยายตัว นั่นคือ ความผันผวนทางเศรษฐกิจ (54%) และการจับจ่ายใช้สอยสินค้า รวมถึงคำสั่งซื้อที่อาจลดลง (30%)
มร. เอียน แพสโค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหุ้นส่วนของ แกรนท์ ธอนตัน ในประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้สถาบันการเงินระดับโลกหลายแห่งต่างคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยว่า แนวโน้มอาจสูงถึง 4% นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นกว่าปี 60 ที่ผ่านมา ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวก็สอดคล้องกับผลสำรวจ IBR ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของนักธุรกิจไทยที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน และอาจเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจไทยที่จะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากปีก่อน
ในปี 61 เราคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะยังเติบโตต่อเนื่องจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล อาทิ นโยบายไทยแลนด์ 4.0, โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในภาคตะวันออก (EEC), การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, มาตรการทางภาษี และการส่งเสริมการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ต่างส่งผลโดยตรงต่อการขยายตัวทางธุรกิจ และความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากรัฐบาลสามารถบริหารและดำเนินนโยบายทั้งหมดได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรม แนวโน้มตัวเลข GDP ของไทยในปีนี้จะมีโอกาสโตได้ถึง 4% ตามที่ได้คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขความเชื่อมั่นของนักธุรกิจไทยในไตรมาส 4/60 จะปรับตัวสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน และผลสำรวจทั่วโลก ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มต่างมีตัวเลขความเชื่อมั่นที่ 58% และนับเป็นตัวเลขความเชื่อมั่นสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจมา
อนึ่ง ผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของแกรนท์ ธอนตัน หรือ Grant Thornton International Business Report (IBR) เป็นการเปิดเผยมุมมองและความคาดหวังของนักธุรกิจกว่า 10,000 รายต่อปี จาก 36 ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำทั่วโลก โดยเริ่มทำการเก็บผลสำรวจจากนักธุรกิจในทวีปยุโรปมานานกว่า 22 ปี และจากประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกอีกกว่า 11 ปี