ไม่กี่วันก่อนได้มีโอกาสสนทนากับนักข่าวสายตลาดหุ้น อดีตลูกน้องเก่า ซึ่งขอให้ช่วยเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับตลาดหุ้น ลงในเว็บไซต์ที่กำลังจะเปิดตัวใหม่ประมาณเดือนนีนาคมนี้ และได้ตกปากรับคำไปเรียบร้อยแล้ว
ลูกน้องเก่ารายนี้ มีประสบการณ์ทำงานสายข่าวตลาดหุ้นมายาวนานประมาณ 30 ปี และเพิ่งปลดแอกตัวเองจากการเป็นนักข่าวมีสังกัด เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ เปิดเว็บไซต์ของตัวเอง นำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวการลงทุน เน้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
สิ่งที่ภาคภูมิใจกับนักข่าวสายหุ้นรุ่นเก๋า ลูกน้องเก่าคนนี้คือ การประกาศจุดยืนในการทำงานสายข่าวตลาดหุ้น โดยยืนยันว่า จะไม่ขอรับ "หุ้นจอง" อีกแล้ว
ในฐานะที่เป็นเจ้านายคนแรกในวงการสื่อ ในฐานะหัวหน้ากองบรรณาธิการ ที่พยายามปลูกฝังนักข่าวให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ มีจุดยืนแน่วแน่ในการทำงาน เคร่งครัดในจรรยาบรรณ และได้ประกาศกฎเหล็กไว้ ห้ามนักข่าวสายหุ้นคนใดภายใต้การบังคับบัญชา เล่นหุ้นหรือรับหุ้นจองโดยเด็ดขาด
ใครฝ่าฝืนถูกไล่ออกทันที
เมื่อลูกน้องเก่าประกาศคำมั่น ยุติการรับ “หุ้นจอง” ย่อมรู้สึกยินดีปรีดาไปด้วย เพราะ “หุ้นจอง” เป็นสินบนประเภทหนึ่ง และสื่อบางสำนักเคยออกประกาศเป็นกฎกติกา ห้ามนักข่าวภายใต้สังกัดรับหุ้นจอง แต่ไม่เคยเข้มงวดกวดขันตรวจสอบอย่างจริงจังว่า
กฎกติกาที่ประกาศไว้ ได้รับการปฏิบัติหรือไม่
การประกาศล้างมือจาก “หุ้นจอง” ที่โบรกเกอร์มักจะจัดสรรโควตาไว้ให้นักข่าวนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ลูกน้องเก่าคนนี้ได้หลุดพ้นจากผลประโยชน์ต้องห้ามของนักข่าวสายหุ้นแล้ว และมีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่สื่ออย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงหรือมีข้อผูกมัดกับผลประโยชน์
ถ้าไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง สื่อจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร
ลูกน้องเก่าคนนี้ เคยร่วมงานกันประมาณ 10 ปี ตั้งแต่สมัยหนังสือพิมพ์ “หุ้นไทย” หนังสือพิมพ์หุ้นรายวันฉบับแรกของประเทศที่ได้รับความเชื่อถือ เพราะเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา เคร่งครัดด้านจรรยาบรรณ กองบรรณาธิการทุกคน ไม่มีใครรับ “หุ้นจอง”
ความจริงในชีวิตการทำงานสื่อด้านหุ้นกว่า 30 ปี เคยมีนักข่าวผู้ใต้บังคับบัญชานับร้อยชีวิต และทุกคนได้รับการปลูกฝังในมาตรฐานเดียวกันหมด โดยต้องเป็นสื่อที่ดี มีศักดิ์ศรี ยึดมั่นอุดมการณ์ ไม่ทำให้วงการสื่อเสื่อมเสีย
อย่าแบบมือขอเงินจากใคร โดยยอมก้มหัวให้ถ่มน้ำลายรด หรือพร้อมรับใบสั่งให้เขียนหรือไม่เจียนข่าว อย่าขายจิตวิญญาณความเป็นสื่อ ยอมเป็นขี้ข้ารับใช้ใครเพียงเพื่อผลประโยชน์
และนักข่าวสายหุ้น ห้ามเล่นหุ้นหรือรับหุ้นจองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้สิ้นอิสรภาพในการนำเสนอ
กฎเหล็กห้ามรับหุ้นจอง ถ้าจะถามว่า มีผลในทางปฏิบัติขนาดไหน ควบคุมนักข่าวภายใต้สังกัดได้เพียงใด ขอยืนยันว่า สามารถควบคุมพฤติการณ์นักข่าวในสังกัดได้ สามารถตรวจสอบได้ว่า นักข่าวคนใดรับหุ้นจองหรือไม่
เพราะสังคมในตลาดหุ้นแคบมาก แคบจนแทบจะชี้หน้าได้ว่า นักข่าวคนไหนเป็นนักล่า “หุ้นจอง” สื่อสายตลาดหุ้นคนไหนเป็นจอมตบทรัพย์ ตั้งหน้าตั้งตารีดไถ และใครรับใช้นักลงทุนขาใหญ่
ตลอดชีวิตการเป็นผู้บังคับบัญชา อบรมปลูกฝังการเป็นสื่อสายหุ้นที่ดีมาตลอด และบอกได้ว่า สื่อสายหุ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน หรือยังเป็นนักข่าวตัวเล็ก ๆ อยู่ก็ตาม หลายคนเคยอบรมบ่มเพาะอุดมการณ์มา บางคนก็รักดี มีสำนึกในจริยธรรมจรรยาบรรณ
แต่บางคน ถึงพระพุทธเจ้ามาโปรดสัตว์ ก็ไม่เห็นสัจจะธรรม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ กลายเป็นสื่อตัวร้ายอย่างไม่มีตำหนิ
ชีวิตความเป็นสื่อ ทุกคนเลือกทางเดินได้ จะเป็นสื่อดีหรือสื่อเลว แล้วแต่ความสมัครใจ แต่ยินดีสำหรับทางเลือกของอดีตลูกน้องเก่า
เลือกที่จะกลับมาเป็นนักข่าวที่จะไม่มีใครมาต่อว่า ทั้งต่อหน้าหรือรับหลัง เลือกที่จะไม่ถูกประณามว่า เป็นนักข่าวที่หิวกระหาย ไร้จรรยาบรรณ รับสินบน "หุ้นจอง"
จะมีนักข่าวสายหุ้นที่ปฏิเสธรับ “สินบน” หุ้นจองเพิ่มขึ้นมาอีกคน ทำไมจะไม่พูดถึง ทำไมจะไม่ให้กำลังใจ ทำไมไม่ช่วยเหลือสนับสนุน
ประชาสัมพันธ์ให้ล่วงหน้า เว็บไซต์ข่าวการลงทุนของลูกน้องเก่าคนนี้ อีกไม่นานจะเปิดตัว และน่าจะเป็นอีกแหล่งข้อมูลการลงทุน ที่น่าเชื่อถือและน่าติดตามอย่างยิ่ง
