“อาทิตย์” ซีอีโอ ธนาคารไทยพาณิชย์ นัดหารือกับตัวแทนสภาพแรงงานฯ ด่วน เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาการปรับเงินเดือน และโบนัส รวมถึงประเด็นการปรับลดพนักงานตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่
วันนี้ (29 ม.ค.) สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ได้ออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนายไวทิต ศิริสุวรรณ ประธานสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เชิญชวนให้พนักงาน และสมาชิกของสหภาพ รวมตัวชุมนุมบริเวณลานน้ำพุธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่รัชโยธิน ตั้งแต่เวลา 12.00-12.45 น. เพื่อเรียกร้อง กรณีเงินโบนัสและการปรับขึ้นเงินเดือนไม่เป็นธรรม รวมทั้งความกังวลที่ธนาคารประกาศลดขนาดองค์กร โดยแจ้งว่าจะรวมตัวกันทุกวันจนกว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหา
สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ยื่นหนังสือต่อนายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อร้องเรียนพิจารณาการปรับขึ้นเงินเดือนไม่เป็นธรรม และให้ธนาคารแก้ไข พร้อมคืนความเป็นธรรมให้กับสมาชิก และพนักงาน หลังจากสหภาพแรงงานได้รับเรื่องร้องเรียนว่าได้รับเงินโบนัสการปรับขึ้นเงินเดือนไม่เป็นไปตามที่เคยชี้แจงไว้
นายไวทิต เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า สหภาพแรงงานฯ ย้ำชัดในเจตจำนงและเจตนารมณ์ของสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ ว่าจะรวมตัวกันทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00-12.45 น. หากยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ทบทวนการพิจารณาการปรับขึ้นเงินเดือน ปรับโครงสร้างเงินเดือนใหม่ ขอให้มีโครงการสมัครใจลาออก โดยเฉพาะกรณียุบควบรวมหน่วยงาน ห้ามบังคับหรือกลั่นแกล้งให้พนักงานมีผลกระทบในทุกกรณี ทั้งเรื่องการย้ายไปปฏิบัติตามที่นายจ้างสั่งหากพนักงานไม่ยินยอม และได้รับผลกระทบ
นายไวทิต ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สหภาพแรงงานฯ ได้รับแจ้งจากตัวแทนผู้บริหารธนาคารว่า นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จะหารือกับตัวแทนสหภาพฯ ในเวลา 11.00 น. นี้ เลื่อนเร็วขึ้นจากเดิมมีนัดเวลา 14.00 น. นี้
“ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านการลดจำนวนพนักงาน เพราะเข้าใจว่า ธุรกิจต้องมีการปรับตัวตามพฤติกรรมลูกค้า และเทคโนโลยี แต่ต้องการให้ผู้บริหารมีทางเลือกกับพนักงาน เช่น เมื่อลดสาขาแล้ว ให้พนักงานมีสิทธิเลือกทำตำแหน่งหน้าที่ที่เชี่ยวชาญ หรือหากพนักงานปรับตัวไม่ได้ ก็ควรมีแพกเกจเงินชดเชยลาออกก่อนเกษียณ”
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังนายอาทิตย์ ออกมาเปิดเผยว่า ใน 3 ปีนี้ หรือระหว่างปี 61-63 ธนาคารเตรียมปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ทั้งแผนธุรกิจ และบุคลากร โดยจะปรับเปลี่ยนจากสาขาเดิมที่มีอยู่กว่า 1,100 สาขา ไปเป็นศูนย์ธุรกิจ หรือบีซีเนส เซ็นเตอร์ ให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งจะทำให้เหลือสาขา 400 แห่งทั่วประเทศ ด้านบุคลากรธนาคารจะไม่รับพนักงานใหม่เพิ่มขึ้นมากนัก และพนักงานเดิมของธนาคารจะทยอยลดลง เพราะที่ผ่านมา พนักงานลดลง 3,000 คนต่อปีอยู่แล้ว รวมทั้งจะปรับให้พนักงานไปทำงานร่วมกับศูนย์ธุรกิจจากปัจจุบันมี 27,000 คน คาดว่าจะเหลือ 15,000 คน