xs
xsm
sm
md
lg

“ฮาบิแทท” วางเป้าเพิ่มแบ็กล็อกหมื่นล้าน รับแผนเข้าตลาดหุ้น-เปิดขายบ้านหรู 120 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายชนินทร์ วานิชวงศ์
“ฮาบิแทท กรุ๊ป” วางแผนดันพอร์ตยอดขายรอรับรู้รายได้สู่ระดับหมื่นล้านบาท ตามแผนที่จะแปรสภาพสู่บริษัทมหาชนภายในปี 63 ปรับแผนหันบุกตลาดอสังหาฯ ในซีบีดี กรุงเทพฯ ปั้น 4 โครงการ และ 1 โครงการที่พัทยา ชิมลางทำบ้านระดับลักชัวรีภายใต้แบรนด์ “เลอรอย” กว่า 100 ล้านบาทเพียง 2 หลังใน ซ.ร่วมฤดี พร้อมขยับพอร์ตลูกค้าต่างชาติสู่ระดับ 30% ในปีนี้

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมเพื่อการลงทุน กล่าวว่า ตามแผนภายในปี 2563 (ปี 2020) บริษัทจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เพื่อรองรับแผนขยายโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ต้องมีแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม และสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดได้ ต่างจากที่ผ่านมา ฮาบิแทท จะใช้กระแสเงินสดในการสร้างธุรกิจและขยายโครงการ โดยคาดว่าตามแผนในปีดังกล่าว บริษัทจะมีสินค้ารอบันทึกเป็นรายได้ (แบ็กล็อก) เกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีมูลค่าโครงการที่เปิดดำเนินการจะไม่ได้เป็นตัวเลขที่หลายเท่าตัว แต่จะมีมูลค่าโครงการที่เหมาะสมกับภาวะตลาด

ทั้งนี้ ในปี 2561 บริษัทได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนทำโครงการระดับไฮเอนด์ในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก และคาดว่า น้ำหนักลงทุนในกรุงเทพฯ จะมากขึ้น 70% พัทยา 30% หลังจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ฮาบิแททฯ ยึดทำเลศักยภาพในพื้นที่พัทยามาโดยตลอด โดย 5 โครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 4,000 ล้านบาท

โครงการแรกเจาะกลุ่มตลาดนิชมาร์เกต เป็นที่อยู่อาศัยระดับอัลตราลักชัวรี ภายใต้ชื่อ “เลอรอย” ใน ซ.ร่วมฤดี ห่างรถไฟฟ้าบีทีเอส 500 เมตร โดยพื้นที่โครงการไม่มากเพียง 200 ตารางวา จะก่อสร้างในรูปแบบบ้านพักอาศัย จำนวน 2 หลัง ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว่า 2,160 ตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 250 ล้านบาท โดยต่อหลังมีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางวา สูง 7 ชั้น 6 ห้องนอน ราคาขายประมาณ 108-120 ล้านบาท
โฉมหน้าโครงการบ้านหรูระดับลักชัวรี มีเพียง 2 หลังๆกว่า 100 ล้านบาท
“ทุกโปรดักต์ เราจะมองทำเล และมองเรื่องการลงทุนเป็นหลัก โดยพยายามไม่เน้นเรื่องการใช้รถ แต่จะให้น้ำหนักเรื่องการใช้เส้นทางที่เดินทางได้สะดวก ทั้งนี้ โครงการ เลอรอย เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ และเป็นตลาดที่มีผู้เล่นน้อยราย”

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ระดับพรีเมียมในโซนสุขุมวิทอีก 3 โครงการ ภายใต้ชื่อโครงการ “วาลเด้น” อยู่ในทำเลสุขุมวิท-ทองหล่อ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท โดยโครงการแรกจะเปิดช่วงแรกของปีนี้ ได้แก่ วาลเด้น ซ.ประสารมิตร 23 ราคาขายเฉลี่ย 1.7-2.2 แสนบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวนไม่เกิน 83 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ 2 และ 3 จะอยู่ในโซนพร้อมพงษ์ และทองหล่อ มูลค่าโครงการละ 900 ล้านบาท และโครงการสุดท้ายที่พัทยาเหนือ มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท รูปแบบคอนโดฯ เพื่อการลงทุน อยู่ระหว่างการเลือกเชนมาบริหาร

“ลูกค้าของฮาบิแททจะเพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยจะเพิ่มเพดานให้มาอยู่ที่ 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10-15% โดยจะมีการนำโครงการในกรุงเทพฯ ไปโรดโชว์ อย่างโครงการ วาลเด้น ไปแนะนำโครงการกับนักลงทุนที่สิงคโปร์, ฮ่องกง, จีน และไต้หวัน ”

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ วางเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท เติบโต 131% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามียอดขาย 1,300 ล้านบาท และจะมีรายได้จากค่าเช่าเพิ่มขึ้น 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า (2561-2563)




กำลังโหลดความคิดเห็น