วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ หุ้นบริษัท ปิคนิก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PICNI ซึ่งหายสาบสูญจากตลาดหุ้นไปกว่า 10 ปี จะกลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้ง ภายใต้ชื่อและโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ในนามบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น WP
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอนุมัติให้ WP พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเป็นเวลา 1 ปี โดยปี 2559 มีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท งวด 9 เดือนแรกปี 2560 มีกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท
ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีจำนวน 675 ล้านบาท และบริษัทมีฐานะทางการเงินและผลดำเนินงานที่มั่นคง
หุ้น WP เกิดจากการควบรวมระหว่าง บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG) กับ PICNI เมื่อปี 2557 โดยเวิลด์แก๊สเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน PICNI นำทุนใหม่เข้ามาฟื้นฟูกิจการ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 83% ของทุนจดทะเบียนใน PICNI หลังจากนั้นได้ควบรวม และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ฯ
“เวิลด์แก๊ส” เดิมมี PICNI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ถูกขายออกในลักษณะการผ่องถ่ายทรัพย์สินในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง โดยกลุ่ม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ “เวิลด์แก๊ส” ในเวลาต่อมา
PICNI ในอดีต เป็นหุ้นที่ร้อนแรง มีการสร้างข่าวกระตุ้นการเก็งกำไรอย่างต่อเนื่อง มีการเพิ่มทุนนำหุ้นแจกนักการเมืองกันอย่างสนุกสนาน ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา
กลุ่มลาภวิสุทธิสิน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PICNI แต่ก่อพฤติกรรมผิดมากมาย จนพี่น้องลาภวิสุทธิสิน ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษยกตระกูล เริ่มตั้งแต่นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ถูกกล่าวโทษคดียักยอกทรัพย์บริษัท บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EWC
และพ่วงข้อหา ร่วมกับพวก 12 คน ยักยอกทรัพย์ PICNI รวมทั้งการขายหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส ฯ ด้วย จนถูกศาลสั่งอายัดทรัพย์ นอกจากนั้นยังถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษในความผิดร่วมกับพวกปั่นหุ้นอีกหลายตัว
ส่วนน้องขายและน้องสาวนายสุริยา ถูกข้อหาแต่งบัญชีงบการเงิน และถูกศาลตัดสินจำคุก 12 ปี ขณะที่นายสุริยาหลบหนีออกนอกประเทศ หายเข้ากลีบเมฆไปแล้วกว่าสิบปี
หุ้น PICNI ถูกพักการซื้อขายกว่าสิบปี ราคาปิดครั้งสุดท้าย 1 บาท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ย้ำว่า ราคาปิดครั้งสุดท้าย ไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของตัวหุ้นในปัจจุบัน ถึงฐานะที่แท้จริงของบริษัท และขอให้นักลงทุนศึกษาสรุปข้อสนเทศของ PICNI ที่แปลงโฉมใหม่มาเป็นหุ้น WP ก่อนตัดสินใจลงทุน
จำนวนผู้ถือหุ้น WP มีทั้งสิ้น 9,195 ราย โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ร่วมลงขัน ในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ มีทั้งกลุ่มศรีวัฒนาประภาหรือกลุ่มคิงเพาเวอร์ กลุ่มเจียรวนนท์หรือกลุ่มซีพี กลุ่มวิไลลักษณ์ กลุ่มพงษ์พานิช และกลุ่มพุ่มพันธุ์ม่วง
WP ประกาศว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และกลุ่มผู้บริหารชุดใหม่ ไม่มีความเกี่ยวพันใด ๆ กับผู้ถือหุ้นและผู้บริหารชุดเก่า เมื่อครั้งที่ยังเป็นหุ้น PICNI สรุปคือ ไม่มีความสัมพันธ์ใดกับกลุ่มลาภวิสุทธิสิน
WP เป็นหุ้นตัวแรกในปี 2561 ที่หลุดออกมาจากกลุ่มฟื้นฟูการดำเนินงาน เป็นหุ้นตัวแรกในปีนี้ ที่ฟื้นขึ้นมาจากหลุม และเนื่องจากถูกพักการซื้อขายยาวกว่าสิบปี ทุกอย่างจึงต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หมด โดยเฉพาะการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์มีเวลาให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลหุ้น WP กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนอนุมัติให้กลับเข้ามาซื้อขาย แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการปล่อยให้หุ้นบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัดหรือหุ้น AQ ซึ่งกลุ่มพุ่มพันธุ์ม่วงเคยถือหุ้นใหญ่ ต่อจาก กลุ่มกฤษดาธานนท์ และขายทิ้งล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน ก่อนหุ้น AQ จะถูกพักการซื้อขาย และต้องย้ายเข้ากลุ่มฟื้นฟูกิจการ
เพราะช่วงการอนุมัติให้หุ้น AQ กลับเข้ามาซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ประกาศล่วงหน้าเพียง 2 ชั่วโมง โดยประกาศอนุมัติ AQ กลับมาซื้อขายเวลา 08.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560 และเปิดให้ซื้อขายทันทีเวลา 10.00น. ในวันเดียวกัน ทำให้นักลงทุนไม่มีเวลาศึกษาข้อมูล จนเกิดความเสียหายหนัก เพราะราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดถึง 31 สตางค์ ก่อนลดลง
ล่าสุดหุ้น AQ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 3 - 4 สตางค์
1 กุมภาพันธ์นี้ PICNI ในร่างใหม่ จะกลับเข้ามาซื้อขายภายใต้ชื่อหุ้น WP และมีเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อพิจารณาว่า จะนั่งดูหุ้นตัวนี้ไปก่อนไปก่อน หรือจะโดดเข้าไปลุยทันที
จะ “รอ” หรือ “ลุย” WP อย่าลืมว่า แม้เปลี่ยนชื่อแซ่ใหม่ แต่พฤติกรรมหุ้นตัวนี้ในอดีตอาจยังตามหลอกหลอนนักลงทุนอยู่ นักลงทุนบางคนคง “แหยงๆ” บ้างล่ะ