xs
xsm
sm
md
lg

“บิลท์แลนด์” เล็งยื่นไฟลิ่ง Q4/61 แจงแบ็กล็อก 1,500 ล. รับรู้ปีนี้ 1,000 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชัยรัตน์ ธรรมพีร
“บิลท์ แลนด์” เล็งยื่นไฟลิ่ง Q4 ปี 61 เหตุรอประธานฝ่ายการเงินอายุงานครบปี แจงปีนี้ไม่มีแผนขึ้นโครงการใหม่ พร้อมเร่งระบายสต็อกจาก 4 โครงการที่อยู่ระหว่างเผยแบ็กล็อกในมือ 1,500 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ปีนี้ 1,000 ล้านบาท ยันเปิดกว้างต่างชาติร่วมทุนหวังเสริมเม็ดเงินขยายธุรกิจอนาคต

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 61 บริษัทจะยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่จะยังมีสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนารองรับความต้องการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างขายในมือ 4 โครงการประกอบด้วย โครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ สาทร-วุฒากาศ คอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น และ 41 ชั้น จำนวน 1,068 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียูนิตเหลือขาย 30 ยูนิต โครงการเทมโป้ควอด พหลโยธิน-สะพานใหม่ คอนโดสูง 8 ชั้น 1 อาคาร 153 ยูนิต ปัจจุบันมียูนิตเหลือขาย 30 ยูนิต โครงการ เลสโต้ สุขุมวิท 113 คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 400 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท และโครงการ ริสโม่ บางกรวย บ้านแฝดผสมทาวน์โฮม 60 ยูนิต

“โดยทั้ง 4 โครงการดังกล่าว บริษัทจะมีการปรับขึ้นราคาขาย โดยเฉพาะโครงการห้องชุด ซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้า โดยในแต่ละโครงการจะทยอยปรับขึ้น 5-10% ขึ้นอยู่กับความเร็วในการซื้อ-ขายของลูกค้าในแต่ละโครงการ”

สำหรับโครงการ เลสโต้ สุขุมวิท 113 ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการกรมที่ดิน ดำเนินการจัดการแสดงกรรมสิทธิ์ให้แล้วเสร็จ ก่อนจะสามารถส่งมอบห้องชุดให้ลูกค้า โดยในเดือนมีนาคม 61 จะจัดงานเปิดให้ลูกค้าชมห้องชุด และจองซื้ออีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้(แบ็กล็อก)ในมือ 1,500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 1,000 ล้านบาท มาจากโครงการ เดอะเทมโป้แกรนด์ 200 ล้านบาท และอีก 800 ล้านบาท จะมาจาก 3 โครงการที่เหลือ

นายชัยรัตน์ กล่าววา อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทมีแผนจะยื่นไฟลิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงไตรมาส 4 ทั้งนี้ สาเหตุที่จะต้องรอยื่นไฟลิ่งในไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากต้องรอให้ประธานฝ่ายการเงินของบริษัทมีอายุงานครบ 1 ปีก่อน ส่วนแผนการกระจายหุ้นในตลาดนั้น ต้องรอให้ที่ปรึกษาการเงินดำเนินการตามขั้นตอน การกำหนดราคาหุ้นและจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายก่อนว่ามีจำนวนเท่าใด จึงจะสามารถดำเนินการได้ โดยคาดว่า บริษัทจะสามารถกระจายหุ้นได้ในปี 62-63

ส่วนแผนการร่วมทุนบริษัทข้ามชาตินั้น บริษัทยังเปิดกว้างอยู่ตลาด ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีหลายบริษัทในประเทศเอเชีย เช่น สิงคโปร์ และประเทศญี่ปุ่น ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเจรจากันไม่จบ โดยในการพิจารณาผู้ร่วมทุนนั้น บริษัทให้น้ำหนักกับเรื่องเม็ดเงินลงทุน และแนวทางการทำงานร่วมกันว่าสามารถร่วมกันได้หรือไม่ เป็นหลัก ส่วนในเรื่องเทคโนโลยี หรือโนวฮาวต่าง ๆ นั้น เป็นเรื่องรองลงมา
 



กำลังโหลดความคิดเห็น