กระทรวงการคลัง เดินหน้าใช้งบกลาง ปี 2561 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เพื่อปฏิรูปประเทศ เริ่มต้นด้วยการฝึกอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจาก ครม. เห็นชอบงบกลางปี 61 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เมื่อนำยอดเงิน 5 หมื่นล้านบาท ส่งเข้าชดเชยการคลังแล้ว ในส่วนวงเงิน 1 แสนล้านบาท ได้เตรียมนำมาใช้ปฏิรูปในด้านต่าง ๆ จากนั้น จัดสรรงบสานต่อเนื่องโครงการต่อเนื่องไปยังงบปี 62 โดยการเริ่มทำโครงการในช่วงนี้ เพื่อให้เริ่มต้นการปฏิรูป ทั้งนี้ หลังจากเสนอสภา สนช. พิจารณาแล้ว จะเริ่มจัดสรรเงินออกสู่ระบบผ่านโครงการหลายส่วนราชการ ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะมีการจัดสรรสำหรับการฝึกอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อย และจ่ายสมทบในบัตรสวัสดิการเหมือนกับเป็นค่าฝึกอาชีพสำหรับผู้ลงทะเบียนฝึกอาชีพ วงเงิน 35,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องการมุ่งปฏิรูปภาคเกษตรเป็นหลัก แม้จะใช้วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อปฏิรูปในหลายด้าน แต่เชื่อว่าจะมีการสานต่อเพิ่มเติมอีก ผ่านการติดตามผลอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาโครงการในชุมชน เช่น การสร้างไซโลกลางเก็บสินค้าเกษตร เพื่อไม่ให้ปล่อยออกสู่ตลาดพร้อมกันจนเกิดปัญหาราคาตกต่ำ การมุ่งแก้ปัญหายางพารา ด้วยการตัดต้นยางบางส่วน การลดปริมาณการผลิตสินค้าบางประเภทไม่ให้มีปัญหาล้นตลาด และประสานมหาดไทย เสนอโครงการขนาดเล็กของหมู่บ้าน อปท. มุ่งเน้นด้านการปฏิรูปในการประกอบอาชีพแบบยั่งยืนในชุมชน ยืนยันจะไม่ให้ใช้งบสำหรับจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มุ่งเน้นเพื่อการปฏิรูปโครงสร้างฐานในพื้นที่ จากนี้ไป 6 เดือน ทุกอย่างจะเริ่มชัดเจน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงกาคลัง กล่าวว่า วันที่ 23 ม.ค. นี้ กระทรวงคลังเตรียมประชุมทางไกลผ่านวีดิโอ คอนเฟอร์เร็นซ์ ร่วมกับหลายหน่วยงานทั่วประเทศ เพราะเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งกระทรวงมหาดไทย, ผู้ว่าราชการจังหวัด, แรงงานจังหวัด, พาณิชย์จังหวัด, พัฒนาสังคมจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจมาตรการช่วยเหลือรายย่อยผู้ลงทะเบียนสวัสดิการเฟส 2 จากนั้น วันที่ 1 ก.พ. นี้ ทุกหน่วยงานจะเริ่มเดินหน้าโครงการเต็มรูปแบบ ส่งหมอประชารัฐสุขใจลงพื้นที่ วิเคราะห์ปัญหาอาชีพ มีเมนูอาชีพให้เลือกในการประกอบอาชีพเสริม นอกจากภาคเกษตร เช่น ช่างซ่อมประเภทต่างในชุมชนทั้งไฟฟ้า, ประปา, ช่างไม้ ประจำหมู่บ้าน เพื่อให้ครบทั้ง 7 หมื่นหมู่บ้าน
ยังมีตำแหน่งงานทำในประเทศ 1 แสนตำแหน่งรองรับผู้ต้องการ และหางานต่างประเทศ 7 หมื่นตำแหน่ง ตลอดจนอาชีพแฟรน์ไชส์ ของกระทรวงพาณิชย์อีกจำนวนมาก ขณะนี้ยังพอมีงบประมาณบางส่วนจากกองทุนเฟสแรกมาใช้จ่ายเพิ่มดำเนินงาน จึงเริ่มส่งหมอประชารัฐสุขใจ ลงพื้นที่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนจะเริ่มโครงการคัดแรงงาน มาฝึกอบรมเน้นวัยแรงงาน ส่วนผู้ใกล้เกษียณจะมีเมนูอาชีพเสริมให้เลือกเพิ่มเติม และเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น จะแนะนำให้สมัครเป็นสมาชิกกองทุน กอช. เพื่อสะสมเงินเอาไว้รองรับวัยชรา เมื่อร่วมมือกับหลายกระทรวง คาดว่าการพัฒนาอบรมอาชีพจะช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการได้ครบทั้งหมด 5 ล้านคน