“สมคิด” แจงบาทแข็ง เพราะดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อน ไม่ใช่แค่ไทย แต่กระทบหลายประเทศ ส่วนการประชุม Doing Business เตรียมความพร้อมเวิลด์แบงก์เยือนไทยกลางปีนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นว่า สาเหตุเกิดจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ทำให้ค่าเงินในหลาย ๆ ประเทศแข็งค่าขึ้น รวมถึงค่าเงินบาท ด้วยภูมิภาค ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกประเทศต่างก็ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้น
นายสมคิด กล่าวถึงการเป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก (Doing Business) โดยระบุว่า เพื่อติดตามประเด็นที่ค้างต่อเนื่องจากปี่ที่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการปฏิรูปกฎหมาย จึงได้มอบหมายให้มีการตั้งทีมทำงานขึ้นมาดูแลการปฏิรูปกฎหมายดิจิทัลทั้งหมด รวมถึงพิจารณาถึงแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้จัดเตรียมปฏิทินในการจัดทำรายงาน Doing Business เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ธนาคารโลกจะมาประเมินในช่วงกลางปี ก่อนจะประกาศผลในปลายเดือนตุลาคม เพื่อให้อันดับของประเทศปรับดีขึ้นจากปีก่อนที่เพิ่มขึ้นถึง 20 อันดับ แต่ก็ยังมีบางรายการที่คะแนนไม่เปลี่ยนแปลงเลย อย่างเรื่อง การก่อนสร้าง การจดทะเบียนสินทรัพย์ การล้มละลาย จึงต้องมานั่งเตรียมการแก้ไขกระบวนการต่างให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกระบวนการในการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า อันดับ Doing Business ที่ปรับจากอันดับที่ 46 มาอยู่ที่ 24 ถือว่าเราติด 1 ใน 2 ของประเทศที่มีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด แต่การที่เราจะเข้าไปอยู่ใน 20 หรือ 10 อันดับแรกเริ่มยากขึ้น เพราะประเทศ 20 อันดับแรกที่อยู่เหนือไทย ถือว่าเขาพัฒนาระบบค่อนข้างดี และขณะที่ไทยเองกำลังพัฒนาระบบให้ดีขึ้น เขาเองก็พัฒนาไปข้างหน้าเช่นเดียว แต่ก็ยังถือว่ามีพื้นที่ที่จะเข้าไปอยู่ใน 20 อันดับแรกได้ และอยู่ในวิสัยที่ไทยสามารถทำได้เช่นกัน