บล. ไอร่า มองเศรษฐกิจฟื้น จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และยอดการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง คาด GDP ในปี 2561 ขยายตัว 4.1% จากปีก่อนคาดที่ระดับ 3.9% พร้อมจัดพอร์ตหุ้นเด่นน่าลงทุนสำหรับปี 61 แนะกลุ่มแบงก์-รับเหมาก่อสร้าง-อาหาร ชู BBL-S11-STEC-CK-BR-CBG เด่น
นางจิตรลดา เลขาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินกลยุทธ์การลงทุนปี 2561 โดยเน้นการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจบ้านเรา (Domstic Play) อิงไปกับ Sector ที่มีการเติบโต ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ที่คาดได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่มีการขยายตัว ซึ่งคาด ช่วยให้ความต้องการสินเชื่อ ที่น่าสนใจในปีนี้แนะนำ BBL และกลุ่ม Leasing แนะนำ S11
รองลงมา คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการลงทุนที่ดีทั้งจากโครงการของภาครัฐ และการลงทุนจากภาคเอกชน ที่คาด มีความเชื่อมั่นดีขึ้นตามลำดับ และยังได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการลงทุนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC ที่น่าสนในในกลุ่มนี้แนะนำ STEC และ CK
ขณะที่กลุ่มอาหาร ตามสัดส่วนส่งออก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP โดยคาดได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจคู่ค้าที่เรามองว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งกลุ่มประเทศ Emerging Market กลุ่มประเทศกำลังการพัฒนา รวมถึงประเทศในกลุ่ม CLMV ที่คาดว่า GDP ในปีนี้ ขยายตัว 4.9% ที่น่าสนในกลุ่มนี้ แนะนำ BR และ CBG และในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ที่เรามองว่า ค่าโฆษณายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจ ที่น่าสนใจแนะนำ WORK และ MONO
“แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2561 มีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยได้รับปัจจัยบวกจากสภาพัฒน์ฯ คาด GDP ขยายตัว 4.1% จากคาดการณ์ในปี 2560 ที่ 3.9% และคาดเป็นปีที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุดนับจากปี 2557 จากทุก Sector จากการลงทุนของภาคเอกชน และภาครัฐ, การส่งออก ที่มีการปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจโลก, การใช้จ่ายครัวเรือน และการท่องเที่ยว ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาทตลอดปี 2561 สำหรับเมืองรอง 55 จังหวัด รวมถึงแผนการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้างระบบราง ทั้งรถไฟความเร็วสูง, รถไฟทางคู่, รถไฟฟ้า และโครงการ Motorway เป็นต้น และการเลือกตั้ง คาดตาม Road Map เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2561-ต้นปี 2562 คาดส่งดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน”
ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาพรวมการลงทุนในปี 2561 มาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น โครงการ National Building หรือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 1.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหากมีความชัดเจนคาดส่งผลดีต่อการลงทุน