ตลท. เผยปี 61 เน้นสร้างคุณภาพธุรกิจชูนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน รักษาความเป็นหนึ่งในอาเซียน ภายใต้กรอบกลยุทธ์ 3 ปี (61-63) โดยเดินหน้าพัฒนาตลาดทุนเพื่อเป็นประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกภาคส่วน สอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุน และสอดรับกับนโยบายของประเทศ ด้วยแผนกลยุทธ์ 3 ด้าน
นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน และเติบโตไปพร้อมกันทั้งเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ เป็นสิ่งที่ ตลท. ยึดเป็นหลักการดำเนินงานต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นเป็นต้นแบบการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมตามกรอบกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (2561-2563) “Towards Sustainable Growth with Innovation”
แผนงานในปี 61 จะมุ่งเน้นเรื่องการสร้างความยั่งยืนโดยการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ถือเป็นความท้าทายขององค์กรในยุคดิจิทัลที่นวัตกรรม และเทคโนโลยี มีบทบาทในชีวิตมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเดินหน้าแผนกลยุทธ์องค์กรที่สนับสนุนแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับล่าสุด เพื่อเป็นกลไกสำคัญในขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตลท. เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นที่ 1 ในระดับภูมิภาคอาเซียนทั้งด้านสภาพคล่อง และคุณภาพบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งมีการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จากจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งด้านสภาพแวดล้อมที่ผู้ลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมความพร้อมในการพัฒนาสู่ก้าวต่อไปในอนาคต
ในปี 61 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมุ่งพัฒนาตลาดทุนไทย โดยใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ สู่การเป็นตลาดทุนที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ และยั่งยืนในระยะยาว สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก เพื่อตอบโจทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ลงทุน และบริษัทจดทะเบียน พร้อมรักษาความเป็นที่ 1 ในอาเซียนตามแผนกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่
1. การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทยด้วยคุณภาพ การสร้างโอกาสการขยายธุรกิจ เพื่อการเติบโตในระยะยาว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตลาดทุน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทยด้วยคุณภาพ (Strengthen core exchange business with quality) ผลักดันบริษัทที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้อย่างเข้มข้นก่อนเข้าจดทะเบียน เพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุนโดยมีมาตรการเตือนผู้ลงทุนสำหรับกลุ่ม บจ. ที่มีฐานะเสื่อมถอย
ผลักดันการแก้ไขกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคของผู้ลงทุนสถาบันให้ลงทุนในตลาดหุ้น และตลาดอนุพันธ์ ได้สะดวกยิ่งขึ้น ร่วมมือกับหน่วยงานภาคตลาดทุน ส่งเสริมวัฒนธรรมการลงทุนอย่างสม่ำเสมอแบบ dollar-cost averaging (DCA) ในหุ้น และกองทุนรวม ด้วยการพัฒนาเครื่องมือ และช่องทางใหม่ ๆ บน digital platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ลงทุนให้สามารถเข้าถึงช่องทางความรู้ และการลงทุนระยะยาว รองรับสังคมผู้สูงอายุ สนับสนุนการทำงานของสถาบันตัวกลาง โดยพัฒนาศักยภาพ และจำนวนบุคลากร ผ่านการให้ความรู้ผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน ธนาคารพาณิชย์ และประกันภัย เสริมสร้างตลาดทุนให้เป็นที่รู้จักกับผู้ลงทุนต่างประเทศต่อเนื่องในรูปแบบ digital roadshow เพิ่มสภาพคล่องสินค้าเดิม และเพิ่มสินค้าใหม่ทั้งหุ้น และอนุพันธ์ พัฒนาตลาดทุนไทยสู่เวทีโลก เป็นเจ้าภาพงานประชุม Association of Futures Market : AFM
ทั้งนี้ ในปี 61 ตลท. ตั้งเป้ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นรวม 550,000 ล้านบาท (จากการระดมทุนเพิ่มของบริษัทจดทะเบียน และหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่) เพิ่มจำนวน บจ. ในดัชนีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้แก่ MSCI และ DJSI รวมถึงเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล บจ. โดยจัดกลุ่ม บจ. ที่เข้าข่ายความผิดปกติแล้วเสร็จในไตรมาส 2/61
2. สร้างโอกาสการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตในระยะยาว (Create business opportunities for long-term growth) ขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังผู้ประกอบการ Startup และ SMEs ผ่าน LiVE platform ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ลงทุนมากขึ้น ควบคู่การให้ความรู้ด้านการเงินจัดตั้ง Corporate Venture Capital : CVC ร่วมลงทุนใน Startup และ SMEs ทั้งในและต่างประเทศ เป็นแหล่งระดมทุนของภูมิภาคโดยทำงานผ่าน G2G กับภาครัฐ เพื่อเชื่อมโยงการระดมทุน และลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ผ่านตลาดทุนไทยให้บรรลุผลสำเร็จ โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมส่งเสริมผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลงทุนใน CLMV ผ่านตลาดทุนไทยเป้าหมายในปี 2561 มีผู้ประกอบการ Startup SMEs ลงทะเบียนผ่าน LiVE platform 100 บริษัท และมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท พร้อมพัฒนา application เพื่อเป็นศูนย์รวมของข้อมูลการต่ออายุของผู้ประกอบวิชาชีพ (professional licensing) รวมถึงส่งเสริมผลิตภัณฑ์ตลาดทุนไทยใน CLMV
3. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตลาดทุน (Enhance infrastructure & capability) เตรียมการเพื่อรองรับการให้บริการ T+2 ที่จะเริ่มใช้ 2 มี.ค. 61 ต่อยอดบริการ payment และ settlement ของระบบ Fund Connext ให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนรวมได้หลากหลาย สะดวก และรวดเร็ว พัฒนา FinNet ตัวกลางการชำระเงินของตลาดทุน เพื่อให้เกิดความสะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เตรียมความพร้อมเพื่อประเมินระบบตามมาตรฐาน Financial Sector Assessment Program : FSAP ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงตามกรอบใหม่ของ COSO เพิ่มประสิทธิภาพระบบ IT ตามมาตรฐานสากล เช่น ทำงานร่วมกับพันธมิตร การนำ Blockchain มาปรับใช้เพื่อการให้บริการที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้ลงทุน และบริษัทจดทะเบียน พัฒนาศักยภาพบุคลากรใน ตลท. และตลาดทุนให้เติบโตไปพร้อมกัน ด้วยการสร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมในองค์กรขยายไปยังผู้ร่วมตลาดทุน
เป้าหมายปี 61 ขยายมาตรฐาน IT security (ISO 27001) ให้ครอบคลุมทุกระบบหลักภายใน 3 ปีพร้อมเริ่มใช้ T+2 ในวันที่ 2 มี.ค. และจะเพิ่มฐานลูกค้า FundConnext ขยายไปยัง บลจ. และ selling agent 30 แห่ง พร้อมเริ่มให้บริการ FinNet ด้วย Intra-bank payment 12 ก.พ. สรุปพัฒนาการสำคัญ และผลิตภัณฑ์ในตลาดหลักทรัพย์ และความสำเร็จในปี 60 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงโดดเด่นในระดับภูมิภาคทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 33 บจ. ไทยได้รับคัดเลือกเข้าคำนวนในดัชนี MSCI Standard Index โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีจำนวน บจ. ไทยเพิ่มขึ้นสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน 17 บจ. ไทยได้รับคัดเลือกเข้าคำนวนในดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) สูงสุดในอาเซียน
ตลท. ติด Top 10 ตลาดหลักทรัพย์โลก ด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนของ บจ. จากรายงานวิจัย “Measuring Sustainability Disclosure 2017” โดย Corporate Knights และ AVIVA 8 บจ. ไทย คว้า 11 รางวัลยอดเยี่ยมด้านนักลงทุนสัมพันธ์ IR Magazine Awards ประจำปี 2560 โดยจำนวน บจ. ไทยได้รางวัลมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตลท. ได้รับรางวัล “Best Sustainable Securities Exchange Southeast Asia Emerging Markets 2017” จากวารสาร Capital Finance International (CFI.co) ประเทศอังกฤษ ตลท. คว้ารางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ประเภท Green Building จากการประกวด ASEAN Energy Awards 2017 และรางวัล Green Office ระดับดีเยี่ยม (G ทอง) ประจำปี 2560 ในโครงการสำนักงานสีเขียว รวมถึงรางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน อาคารใหม่ ในการประกวด Thailand Energy Awards 2017 เชิงปริมาณ
ดัชนี SET Index ปิดที่ระดับ 1,753.71 จุด เพิ่มขึ้น 210.77 จุด หรือ 13.66% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai 17.92 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.62% จากสิ้นปี 2559 สภาพคล่องครองอันดับหนึ่งติดต่อกันตั้งแต่ปี 55 ในภูมิภาคอาเซียน มูลค่าซื้อขายต่อวัน 50,113.72 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจากการระดมทุนผ่าน บจ. ใหม่ (IPO) สูงสุดใน ASEAN-5 อยู่ที่ 426,349 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจากการระดมทุนเพิ่มของ บจ. (Secondary Offering) รวม 215,804 ล้านบาท ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 323,732 สัญญา จำนวนเปิดใหม่ในตลาดหุ้น และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 148,976 บัญชี