ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ชี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ นิยมลงทุนตลาดที่อยู่อาศัยในไทย หลังมีผ่อนปรนหลักเกณฑ์มากขึ้น ระบุอสังหาฯ ในไทยได้รับตอบรับจากลูกค้าจีนมากขึ้นต่อเนื่อง จับตาจุดเชื่อมโครงข่ายรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ทำเลศักยภาพ การลงทุนต่ำแต่ผลประโยชน์ค่อนข้างดี
นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ให้ความเห็นว่า ปี 2560 เป็นปีที่โดดเด่นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีอุปทานใหม่ที่มีการออกแบบของนวัตกรรม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และยังมีการเติบโตทางการลงทุนด้วยโอกาสทางการลงทุนที่น่าสนใจในประเทศไทย เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากค่าภาษี และอากรแสตมป์ที่มีราคาแพง
ในปี 2560 จะสังเกตุเห็นนักพัฒนาหลายแห่งที่ได้ประโยชน์จากส่วนแบ่งทางการตลาดจากกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ตลาดอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยไทยได้รับกระแสการลงทุนเพิ่มมากขึ้นจากนักลงทุนชาวจีน แม้จะมีข้อจำกัดการลงทุนในต่างประเทศที่เข้มงวดมากขึ้นก็ตาม กรุงเทพฯ จัดเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายการลงทุนหลัก โดยคอนโดฯ ราคาระดับกลางหลายแห่งในเมืองได้รับความสนใจจากชาวจีนมากถึงร้อยละ 40 แต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ยังค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากมีกฎบังคับควบคุมการโอนเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของธนาคารแห่งประเทศจีน
การจัดแสดงโครงการ (Road Show) ที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศจีน ถือเป็นกิจกรรมทางการตลาดที่สำคัญ และมีแนวโน้มที่จะขยายใหญ่มากขึ้นในปี 2561 และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ นักพัฒนาควรตระหนักว่า กลุ่มนักลงทุน จะคำนึงถึงเกณฑ์พื้นฐานหลัก 3 ข้อต่อไปนี้ก่อนการตัดสินใจซื้อ ทำเลที่ตั้ง เป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้ซื้อต่างชาติ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่มีสถานที่สำคัญ หรือการเข้าถึงจุดบริการขนส่งมวลชน
ราคา มีความสัมพันธ์โดยตรงกับทำเลที่ตั้ง โดยระดับของโครงการเป็นปัจจัยที่สองในการกำหนดราคา และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการตกแต่งโดยรวมเหมาะสมกับโครงการหรือไม่?
ม.ร. มาร์ซีอาโน เบิร์จโมฮัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการตลาดและการขายต่างประเทศ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า ระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทยมีการขยายเพิ่มขึ้นมาก แต่รถไฟฟ้าบีทีเอส ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการพัฒนาเมือง และเป็นขนส่งมวลชนที่สำคัญที่สุดต่อโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานี Interchange อย่าง สถานีกลางบางซื่อ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ ได้กลายเป็นจุดสนใจหลักของนักลงทุนต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติจำนวนมากยังให้ความสนใจไปที่พื้นที่รอบนอกเขตกรุงเทพฯ ที่มีระดับการลงทุนต่ำแต่ได้ประโยชน์ จากการเชื่อมต่อระหว่างย่านธุรกิจ และพื้นที่ท่องเที่ยวโดยตรง นอกจากนี้ สถานีเชื่อมต่อเตาปูน ที่แล้วเสร็จ และสถานีเชื่อมต่อสำโรง ที่เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว พื้นที่ทั้งสองนี้จะกลายเป็นพื้นที่ที่สำคัญในอนาคต หากสังเกตจากการจราจรในบริเวณที่มีสถานี interchange อย่างสถานีอโศก และสถานีสยาม เรามั่นใจว่า สถานีเตาปูน และสถานีสำโรง จะกลายเป็นสถานีขนส่งหลักภายในปี 2563
“คุณภาพของระบบโครงสร้างพื้นฐานในกรุงเทพฯ อย่างระบบขนส่งมวลชน และระบบโทรคมนาคม ถือเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทางการลงทุนอสังหาฯ และโครงการพัฒนา ซึ่งคล้ายคลึงกับเมืองใหญ่หลาย ๆ แห่งในโลก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดวางตำแหน่งโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชน จะมีผลต่อผู้คนชุมชน และมูลค่าทรัพย์สิน เป็นอย่างมาก เราสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนจากแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท และสายสีลม อสังหาฯ ที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ใกล้กับระบบขนส่ง มักถือเป็นพื้นที่ “พรีเมียม” และเป็นเรื่องปกติที่ราคาอสังหาฯ ในบริเวณนั้น ๆ จะปรับขึ้นตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน”