ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ เดินหน้าการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการ โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 4 ต้นปีจอ ทันที พร้อมเผยแผนการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าทำได้ตามแผนเปิดครบ 5 โครงการ หนุนกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาแตะ 509.7 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และพัฒนาอีก 33.2 เมกะวัตต์ คาดทยอยดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมดในปี 2562 ครบตามแผน
นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคแบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรม ได้แก่ จำหน่ายน้ำดิบ ผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม การบริหารจัดการน้ำเสีย และธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 4 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer-SPP) ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ดับบลิวเอชเอ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ WHAUP ถือหุ้นร้อยละ 99.99 และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 25.01 และ 74.99 ตามลำดับ
สำหรับโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 129.9 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้ง 25.0 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 4 เป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 5 ใน Portfolio การร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัท WHAUP และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ถัดจากโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ที เอส 1 โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 2 และโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 3 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560, วันที่ 8 กรกฎาคม 2560, วันที่ 1 กันยายน 2560 และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน WHAUP มีกำลังการผลิตตามสัญญาตามสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 509.7 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้า 5 โรงดังกล่าวข้างต้น) และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และพัฒนาอีก จำนวน 33.2 เมกะวัตต์ ซึ่งดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมดภายในปี 2562
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมขนาด 6.9 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การ Joint Venture ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WHAUP กลุ่มโกลว์ และ SUEZ เพื่อร่วมลงทุนในบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 33.33 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 24 เดือน โดยจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2562 รวมทั้ง 2 โครงการที่จะเปิดในปี 2562 จำนวน 32.3 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าครบ 542.9 เมกะวัตต์ตามแผน