xs
xsm
sm
md
lg

“ซันสวีท” ไม่ถึงฝันปิดต่ำจอง 60 สต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ซันสวีท เข้าซื้อขายวันแรก ราคาหุ้นปิดที่ 5.25 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อ 60 สตางค์ หรือ 10.26% มูลค่าซื้อขาย 694.26 ล้านบาท เดินหน้านำเงินใช้ขยายกำลังการผลิตตามแผน

วานนี้ (27 ธ.ค.) หุ้นของ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูป เข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยเมื่อเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 5.85บาท เท่ากับราคา IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 5.85 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 8.85บาท ต่ำสุดที่ 5.25บาท เมื่อปิดตลาดพบว่า ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.25 บาท เปลี่ยนแปลงลดลง 60 สตางค์ หรือคิดเป็น 10.26% มูลค่าซื้อขาย 694.26 ล้านบาท

SUN เสนอขายหุ้นไอพีโอ 130 ล้านหุ้น ราคา 5.85 บาท และเปิดจองซื้อหุ้น 20-22 ธันวาคม 2560 ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าพอใจ และการระดมทุนครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อขยายกำลังการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต อันจะส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการควบคุมคุณภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ส่วนเงินจากการระดมทุนที่เหลือก็จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUN กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 10% และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20% เท่ากับปีก่อน โดยจะมีการเพิ่มกำลังการผลิต และลดการสูญเสียจากการผลิต พร้อมเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า จะมีรายได้เติบโตปีละ 10% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20%

นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SUN มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมข้าวโพดหวาน ซึ่งปัจจุบัน อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปของไทยยังมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกไปยังต่างประเทศ อีกทั้งคุณภาพของสินค้าที่ดี และมีมาตรฐาน ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ SUN เป็นผู้นำในตลาดส่งออกข้าวโพดหวานอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM กล่าวเพิ่มเติมว่า SUN ถือว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมข้าวโพดหวานแปรรูป การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้ SUN มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง อีกทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น จนทำให้บริษัทมีการขยายตลาด และสร้างเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น