คลังแจงรายละเอียดโครงการของขวัญปีใหม่ 61 ให้ประชาชนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกร
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 60 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการของขวัญปีใหม่ปี 2561 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนปี 2561 ซึ่งประกอบด้วย 1. โครงการเพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ 2. โครงการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดย ธอส. ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. โครงการเพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน
1.1 โครงการของขวัญปีใหม่ 2561 เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินสำหรับลูกค้าธนาคาร อาคารสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ธอส. จะจ่ายเงิน จำนวน 1,000 บาท ให้กับลูกค้ารายย่อยที่มีการชำระเงินงวดของเดือนธันวาคม 2560 ตรงตามกำหนด รวมถึงต้องมีประวัติผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลังตลอด 48 เดือน และไม่เคยเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans : NPLs) และมีวงเงินกู้รวมกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 1,000,000 บาท ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับของขวัญจำนวนประมาณ 165,107 ราย
1.2 โครงการชำระดีมีคืนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. จะคืนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า 30% ของจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 สำหรับลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ไม่เกิน 300,000 บาท โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับของขวัญเป็นเกษตรกรจำนวน 2.3 ล้านราย
2. โครงการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
ธอส. ได้จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อยทั่วไป และบุคลากรภาครัฐ รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน และมีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดถึง 40 ปี รวมทั้งมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลายื่นคำขอกู้ไม่เกินวันที่ 28 ธันวาคม 2561 หรือเมื่อธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อเต็มวงเงินโครงการแล้ว โดยมีรายละเอียดโครงการสรุปได้ ดังนี้
2.1 โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามที่ธนาคารกำหนด วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท วงเงินสูงสุดต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 2.75% ต่อปี กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ 3% ต่อปี สำหรับกรณีวงเงินกู้มากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท
2.2 โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บุคลากรภาครัฐ) สำหรับบุคลากรภาครัฐตามที่ธนาคารกำหนด วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท ไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อราย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก MRR-3.75% ต่อปี หรือเท่ากับ 3% ต่อปี (ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.75% ต่อปี)
2.3 โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับประชาชนผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามที่ธนาคารกำหนด รวมถึงบุคลากรภาครัฐตามที่ธนาคารกำหนด ที่มีภูมิลำเนา หรือมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี วงเงินโครงการรวม 1,000 ล้านบาท วงเงินสูงสุดต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย และบุคลากรภาครัฐ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ใน 5 ปีแรก อยู่ที่ 2.50% ต่อปี
น.ส.กุลยา กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้นมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกร นอกจากนี้ ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ธอส. และ ธ.ก.ส. ถือเป็นการมอบของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2561 ที่ใกล้จะถึงนี้