วินท์คอม เทคโนโลยี เทรดวันแรกปิดเหนือจอง เพิ่มขึ้น 1.12 บาท หรือ 38.89% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 2.88 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,431.90 ล้านบาท ผู้บริหารปลื้มเผยเป็นผลจากบริษัทฯ มีแผนการเติบโตอย่างชัดเจน ประกอบกับเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโซลูชันแบบครบวงจร แถมได้รับอานิสงส์จากการสนับสนุน Thailand 4.0
บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VCOM เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก (21 ธ.ค. 60) พบว่า เมื่อเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 4.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.32 บาท จากราคาจอง IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 2.88บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 4.80 บาท ต่ำสุดที่ 3.90 บาท เมื่อปิดตลาดพบว่าราคาหุ้นอยู่ที่ 4 บาท เพิ่มขึ้น 1.12 บาท หรือ 38.89% มูลค่าซื้อขาย 1,431.90 ล้านบาท
สำหรับ VCOM ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน IPO จำนวน 80 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นประชาชนทั่วไป 68.60 ล้านหุ้น และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานบริษัท และบริษัทย่อย 11.40 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.88 บาท
นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ VCOM กล่าวว่า วันนี้ถือว่าราคาหุ้นน่าพอใจเป็นอย่างมาก โดยมองว่าเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ มีแผนการเติบโตอย่างชัดเจน ประกอบกับเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโซลูชันแบบครบวงจร บริษัทฯ ยังสามารถตอบโจทย์ และได้รับอานิสงส์จากการสนับสนุน Thailand 4.0 อีกด้วย
หลังจากที่ระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทฯ ได้รับเม็ดเงิน 230 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเฉพาะการขยายงานขายโครงการใหญ่ทั้งในประเทศและกลุ่ม CLM ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ เพื่อสร้างการความเติบโตมั่นคง และยั่งยืน ให้กับบริษัทฯ เพื่อก้าวสู่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งด้านการนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจร ในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 จะเติบโตจากปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20% โดยเป็นการเติบโตมากกว่าตลาดผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยยังมีงานโครงการในใหม่ ๆ ที่อยู่ในประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีกทั้งอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการ คาดเห็นความชัดเจนปี 61 ซึ่งตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากงานบริการสูงขึ้นเป็น 50% ภายใน 2-3 ปี จากปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการอยู่ 30% และอีก 70% มาจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งธุรกิจการให้บริการมีมาร์จิ้นที่สูงกว่า บริษัทจึงเน้นเข้ามารุกตลาดนี้มากขึ้น
นางสาวนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จากอัตราการเติบโตทางธุรกิจของ VCOM โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง บริษัทมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง และงวด 9 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้ 1,119 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 44 ล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนรายได้ปี 59 และงวด 9 เดือนแรกของปี 60 มาจากการจำหน่ายสินค้า 75% และอีก 25% มาจากรายได้การให้บริการ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งจากปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพที่ดีทางธุรกิจ สามารถตอบสนองโซลูชันของลูกค้าได้อย่างครบวงจร จึงเชื่อว่า หุ้นVCOM จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน หลังจากที่เข้าทำการซื้อขายในตลาด mai แน่นอน