ตลาดหุ้นที่คึกคักตลอดสัปดาห์นี้ เกิดจากกองทุนรวมในประเทศเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยซื้อมาตั้งแต่ต้นเดือน ธันวาคมที่ผ่านมา จนสิ้นสุดวันที่ 20 ธันวาคม มียอดซื้อสุทธิสะสมทั้งสิ้น 22,392.01 ล้านบาท กลายเป็นผู้ซื้อรายประจำเดือน
แรงซื้อจากกองทุนรวมที่ทะลักเข้ามา เป็นผลพวงจากเงินที่ไหลเข้ามาในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งไหลเข้ามาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม นอกจากนั้นกองทุนรวมบางแห่งถือเงินสดสำรองไว้จำนวนมาก และโยกเงินไล่เก็บหุ้นในช่วงปลายปี
ปีนี้กองทุนรวมเป็นผู้ที่เก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากตลาดหุ้นสูงสุด ขณะที่นักลงทุนรายย่อย กลายเป็นผู้เสียโอกาส
เพราะกองทุนรวมทยอยซื้อหุ้นเก็บตั้งแต่ต้นปี เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ มียอดซื้อสุทธิสะสมรวมทั้งสิ้น 95,728.96 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อย ทยอยขายหุ้นออกตลอด มียอดขายสุทธิ 85,141.46 ล้านบาท
แม้นักลงทุนรายย่อยจะได้กำไรตลอดทาง แต่กลับต้องเสียโอกาส เพราะขายหุ้นในช่วงตลาดขาขึ้น ขายหุ้นแล้วราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นต่อ จึงเป็นการขายของถูก ขณะที่กองทุนรวมเก็บหุ้นต้นทุนต่ำ ยิ่งซื้อหุ้นยิ่งขึ้น จึงเก็บเกี่ยวกำไรเป็นกอบเป็นกำ แม้ยังไม่ได้ขายหุ้นออกก็ตาม
ดัชนีหุ้นสิ้นปี 2559 ปิดที่ระดับ 1,542.94 จุด แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ดัชนีฯปิดที่ 1,738.16 จุด เพิ่มขึ้น 195.78 จุด หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 13% ซึ่งกองทุนรวมดักทางตลาดหุ้นถูก และตุนหุ้นต้นทุนต่ำไว้เต็มไม้เต็มมือ
และกลายเป็นพระเอกประจำปี เพราะเป็นกลุ่มที่จะเก็บเกี่ยวกำไรจากการลงทุนได้สูงสุด เมื่อเทียบกับต่างชาติ พอร์ตโบรกเกอร์และนักลงทุนรายย่อย
ปีหน้าจะเป็นโอกาสที่กองทุนรวมจะทำกำไรงาม ๆ
เพราะประเมินว่า แนวโน้มการลงทุนจะสดใสต่อเนื่องจากปีนี้ และมีการทำนายเป้าหมายดัชนี ฯ กันแล้ว ประมาณการว่า น่าจะมีโอกาสเห็นจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,900 จุด
เหตุผลสนับสนุนคำทำนายคือ จะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปลายปีหน้า ต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10%
ตลาดหุ้นปีนี้ เพิ่งจะคึกคักในช่วง 5 เดือนหลัง โดย 7 เดือนแรก บรรยากาศซื้อขายเต็มไปด้วยความซบเซา ดัชนีฯเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ระดับ 1,500 จุดเศษ กระทั่งปลายเดือนสิงหาคม แนวโน้มจึงเปลี่ยนมาสู่ช่วงขาขึ้น และขึ้นมาจนสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 23 ปี
ช่วงปลายปีก่อน นักวิเคราะห์หุ้นทำนายกันว่า ดัชนี ฯ ปลายปี 2560 จะยืนอยู่แถวระดับ 1,650 จุด แต่ยังไม่ทันจะสิ้นปี ดัชนีฯทะลุขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,738 จุดแล้ว สูงกว่าความคาดหมายเกือบ 100 จุด
และยังไม่รู้ว่าสิ้นปีจะปิดลงที่ระดับไหน จะสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้น โดยทะลุ 1,753.73 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2537 ได้หรือไม่
นักลงทุนในตลาดหุ้นร่ำรวยกันถ้วนหน้า ส่วนจะรวยมาก รวยน้อย อยู่ที่กลยุทธ์และจังหวะของแต่ละคน และปีหน้าคาดว่า นักลงทุนจะทำเงินจากตลาดหุ้นได้อีกปี
เพราะตามคำทำนายของกูรูหุ้น ดัชนี ฯ จะขยับขึ้นไปอีกประมาณ 10% แนวโน้มตลาดหุ้นที่จะพุ่งขึ้นต่อ จึงกระตุ้นให้นักลงทุน ย้ายเงินเข้ามาในกองทุน RMF และ LTF อย่างคึกคักช่วงส่งท้ายปี เพื่อดักเก็บหุ้น ก่อนราคาจะวิ่งไปไกลในปีหน้า
แม้ระดับราคาหุ้นปัจจุบันจะไม่ถูกแล้ว แต่เพราะความมั่นใจว่า บรรยากาศการลงทุนในปีหน้ายังสดใส ดัชนี ฯ จะไต่ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ นักลงทุนจึงไม่ถอยห่างจากตลาดหุ้น นั่งเฝ้าหน้าจอรอทำเงินจากหุ้นกันจนนาทีสุดท้ายก่อนปิดฉากปี 2559
ถ้ามั่นใจว่า ตลาดหุ้นปีหน้ายังไปได้ดีตามที่บรรดากูรูหุ้นทำนายไว้ ก็น่าเก็บหุ้นตุนใส่กระเป๋าดักหน้าปีหมาไว้บ้าง
แม้จะแพงไปหน่อย แต่ถ้ามีโอกาสทำกำไรได้ ก็คุ้มที่จะเสี่ยงอยู่เหมือนกัน