แพรนด้า จิวเวลรี่ เล็งออกหุ้นกู้ 102 ล้านหุ้นให้กองทุน Advance Opportunity ระดมทุนเพิ่มสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ พร้อมออก PRANDA-W2, PRANDA-W3 และ PRANDA-W4 แจกผู้ถือหุ้นเดิมรวม 102 ล้านหน่วย และออก ESOP-Warrant 20 ล้านหน่วย เตรียมเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 635 ล้านบาท เสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เผยทิศทางธุรกิจส่งสัญญาณดี มั่นใจผลประกอบการปีหน้าสดใส
นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) “PRANDA” ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และค้าปลีกเครื่องประดับอัญมณี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 15/2560 วันที่ 19 ธันวาคม 2560 มีมติการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง จำนวนไม่เกิน 500 ล้านบาท การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 จำนวน 3 ชุด เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท และหรือบริษัทย่อย รวมถึงการขอเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 634,769,950 บาท
สำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจำนวนไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี วัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อการผลิตสินค้า และเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้เงินในการดำเนินธุรกิจ หรือชำระคืนหนี้เดิม รวมตลอดจนเพื่อการอื่นใดตามความเหมาะสม โดยบริษัทจะออกหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่กองทุน Advance Opportunity ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของหมู่เกาะเคย์แมน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร มี Advance Capital Partners Limited (ACP) เป็นผู้จัดการลงทุน จำนวนหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพไม่เกิน 102,382,250 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท
ส่วนการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 3 ชุดย่อย เป็น 1. PRANDA-W2 อายุไม่เกิน 1 ปี อัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 16 หุ้นต่อ 1 หน่วย จำนวน 25,595,562 หน่วย 2. PRANDA-W3 อายุไม่เกิน 2 ปี อัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 16 หุ้นต่อ 1 หน่วย จำนวน 25,595,563 หน่วย 3. PRANDA-W4 อายุไม่เกิน 3 ปี อัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 8 หุ้นต่อ 1 หน่วย จำนวน 51,191,125 หน่วย
รวมจำนวนทั้งสิ้น 102,382,250 หน่วย โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
นอกจากนี้ ยังมีการขออนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย ครั้งที่ 2 อายุ 3 ปี จำนวน 20,476,450 หน่วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กรรมการและพนักงานที่มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ และการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่อจูงใจกรรมการและพนักงานดังกล่าวยังคงทำงานอยู่กับกลุ่มบริษัทต่อไป อันจะช่วยสร้างความเจริญเติบโตให้แก่บริษัท
อีกทั้งขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 409,529,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 634,769,950 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 225,240,950 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ จำนวน 102,382,250 หุ้น PRANDA-W2, PRANDA-W3, และ PRANDA-W4 รวม จำนวน 102,382,250 หน่วย และใบสำคัญแสดงสิทธิสำหรับกรรมการและพนักงานครั้งที่ 2 จำนวน 20,476,450 หุ้น โดยทุกมติต้องผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29 มกราคม 2561
นายชนัตถ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบัน การดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ธุรกิจการผลิตซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นปริมาณมาก ซึ่งเชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ นอกจากจะชำระคืนหนี้เดิมบางส่วนแล้ว ยังช่วยเสริมให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของออเดอร์ และสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ยในการดำเนินงาน ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทมั่นใจว่าจะผลักดันให้ผลประกอบการในปีหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่องได้”