หุ้นไทยปิดบวก 8.98 จุด ขานรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดี 4 เดือนซ้อน สะท้อนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังเล่นอยู่ในกรอบของการพักตัวอยู่ แต่ความผันผวนเริ่มแคบลงเรื่อย ๆ ซึ่งนักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามปัจจัยจากภายนอกประเทศ โดยยังรอดูร่างกฎมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ที่สุดท้ายแล้ว จะมีการรวมร่างกฎหมายของทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา แล้วจะเป็นอย่างไร
นอกเหนือจากนี้ ตลาดฯ ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรใหม่จากนอกประเทศ จะมีเพียงก็ปัจจัยลบจากเรื่องที่ “ไมเคิล ฟลินน์” อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ซัดทอด “ทรัมป์” ว่าเป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว
ปัจจัยในประเทศวันนี้ก็มีปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยออกมาดี 4 เดือนติดต่อกัน ทำให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ตลาดฯ ในช่วงบ่ายนี้ยืนในแดนบวกได้
นอกเหนือจากนี้ ตลาดฯ ก็กำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ภายหลังจากมาตรการของภาครัฐฯ ได้หมดไปแล้ว ด้านนักลงทุนต่างชาติก็ได้กลับมาขายอีกครั้งเมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นถึงการไหลออกของ Fund Flow ที่ยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดฯ
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,703.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.98 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.53% มูลค่าการซื้อขาย 47,566.08 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,686 จุด ส่วนแนวต้าน 1,710 จุด
พร้อมให้ติดตามตัวเลข GDP ของญี่ปุ่น, ตัวเลขส่งออกของจีน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาวันพรุ่งนี้