เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น โชว์งบไตรมาส 1ปี 61 กำไรสุทธิ 40.27 ล้านบาท หลังพลิกโฉมธุรกิจ เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ เต็มตัว เผยกวาดรายได้จากการขายที่ดินจัดสรรนิคมอุตสาหกรรมบางปู 2 กว่า 423 ล้านบาท คาดปี 61 โชว์ฟอร์มขั้นเทพ จ่อบุ๊กรายได้โครงการคอนโดฯ หรูเมืองหาดใหญ่/นิคมบางปู 2-นิคมลำพูน เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แย้มสิ้นปีนี้ได้ข้อสรุป ลุยทาวน์โฮม โครงการแรกมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท
รองศาสตราจารย์ ดร. จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WORLD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 (สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2560) บริษัทฯ มีรายได้รวม 425.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 412.95 ล้านบาท คิดเป็น 10,959.74% เนื่องจากปีนี้บริษัทฯ มีรายได้จากการย้ายที่ดินจัดสรรของโครงการนิคมอุตสาหกรรมบางปู (เหนือ) จำนวน 423.27 ล้านบาท จากการเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญ และเริ่มมีรายได้จากการขายที่ดินจัดสรรตั้งแต่ไตรมาส 4/2560 ขณะที่ปีก่อนมีรายได้จากการขายห้องชุดโครงการที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งเมื่อเปรียบมูลค่าราคาซื้อขายต่อหน่วย โครงการจะมีมูลค่าสูงกว่าห้องชุด
สำหรับในไตรมาส 1/2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 40.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 38.86 ล้านบาท คิดเป็น 2,756.03% ซึ่งถือเป็นกำไรจากการดำเนินงานที่มาจากการเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ภายหลังจากที่บอร์ดบริหารฯ มีมติให้บริษัทฯ ขายธุรกิจการศึกษาคืนให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม (กลุ่มจิยะจันทน์) ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ลงทุนผ่านบริษัท เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ผ่านโครงการคอนโดมิเนียมหรูที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสามารถรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว โครงการคอนโดมิเนียมที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อีก 3 โครงการ มูลค่า 933 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายรายเข้ามาได้ในปี 2561
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท ไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน จำกัด ซึ่งผู้ถือใบอนุญาตนิคมอุตสาหกรรมบางปูเหนือ ในจังหวัดสมุทรปราการ มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท และเข้าไปถือหุ้นบริษัท เวิลด์ อินดัสเตรียล เอสเตท (ลำพูน) จำกัด ผู้ถือใบอนุญาตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ (ลำพูน 2) มูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยทั้งสองโครงการก็จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปี 2561 ด้วยเช่นกัน
รองศาสตราจารย์ ดร. จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่เกิดจากเงินสด จำนวน 1,730 ล้านบาท ที่ได้จากการขายธุรกิจการศึกษา ซึ่งกำลังพิจารณานำมาใช้ในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่อีกหลายโครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะลงทุนในโครงการทาวน์โฮมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท เป็นโครงการแรกในปี 2561 คาดว่าจะได้ผลสรุปในเร็ว ๆ นี้ ผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน