xs
xsm
sm
md
lg

ผู้บริหาร “แสนสิริ” จับมือแปลงสภาพวอร์แรนต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


3 บิ๊กแสนสิริ พร้อมกลุ่มผู้บริหารผนึกมือแปลงวอร์แรนต์เต็มจำนวน คิดเป็นเกือบ 86% จากวอร์แรนต์ที่มีการแปลงสิทธิทั้งสิ้น 577.23 ล้านหุ้น มูลค่า 1,443.08 ล้านบาทจากความเชื่อมั่นในแผนก้าวล้ำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลงทุนมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,800 ล้านบาทใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก 

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดให้ใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) หรือ SIRI-W2 ตั้งแต่วันที่ 3-23 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งสรุปว่ามีการใช้สิทธิแปลงสภาพตลอดอายุวอร์แรนต์ทั้งสิ้น 577.23 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1,443.08 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้มีผู้บริหารของแสนสิริ แจ้งความจำนงใช้สิทธิแปลงสภาพถึงเกือบ 86% จากจำนวนดังกล่าว ในราคาการใช้สิทธิที่ 2.50 บาท โดยหลักมาจากนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่, นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ, และนายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ ร่วมด้วยกลุ่มผู้บริหารของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อยอีกจำนวน 43 ราย ที่ให้ความเชื่อมั่นใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ด้วยเช่นกัน

“การใช้สิทธิเต็มจำนวนจากกลุ่มผู้บริหารหลักของแสนสิริในครั้งนี้มาจากความมั่นใจในแผนการลงทุนใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก ซึ่งนับเป็นการขยายฐานการลงทุนในธุรกิจอื่นครั้งสำคัญที่ล้วนมีอัตราการเติบโตสูงในตลาดโลก อันจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของแสนสิริในอนาคต และยังเป็นการสร้างพันธมิตรในประเภทธุรกิจที่หลากหลาย การก้าวล้ำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยแผนการลงทุนมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,800 ล้านบาท ใน 6 ธุรกิจนี้ บริษัทจะเร่งเดินหน้ากลยุทธ์โมเดลธุรกิจแบบ asset light ในยุคปฏิวัติดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสจากการผนึกกำลังร่วม และโอกาสการเติบโตที่รวดเร็ว โดยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของทั้งหกบริษัทจากการเข้าถือหุ้นของแสนสิริ จะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของแสนสิริ รวมถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง และแนวโน้มที่ดีในอนาคต” นายวันจักร์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้แล้วประมาณ 34,000 ล้าน หรือคิดเป็น 85% จากเป้ายอดขาย 40,000 ล้านบาท และรายได้ในรอบ 9 เดือน ที่ 23,129 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับ Backlog ที่รอรับรู้ในไตรมาส 4 อีกประมาณ 7,000 ล้านบาท ทำให้บริษัท secure รายได้ไปแล้วถึง 90% ของเป้าหมายรายได้ทั้งปี 34,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสสุดท้าย บริษัทยังมียอดทยอยรับรู้รายได้จากการโอนโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ที่เริ่มทยอยโอนตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา วางเป้าหมายการโอนโครงการ 80% มูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2560

“ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลงานดีที่สุด ทั้งในด้านยอด Presales และรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปี รวมถึงบริษัทเชื่อว่าสามารถรักษาระดับกำไรข้างต้นในระดับสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากการที่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นจากการล็อกต้นทุนการพัฒนาโครงการกับกลุ่มผู้รับเหมาในแบบล่วงหน้า ส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อย ๆ ลดลง และคาดว่าจะเห็นผลชัดเจนในปี 2561 ที่บริษัทจะสามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 0.5-1%” นายวันจักร์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น