EIC SCB ปรับประมาณการจีดีพีปีนี้เป็น 3.8% จาก 3.6% หลังสภาพัฒน์ รายงานจีดีพี ไตรมาส 3 เติบโตได้ดีเกินคาด จากเศรษฐกิจโลกที่จะโตได้ต่อเนื่องหนุนส่งออกโตต่อเนื่องถึงปีหน้า ขณะที่การบริโภค-ลงทุนเริ่มกระเตื้อง แต่ก็ยังมีความเปราะบาง พร้อมคาดการณ์จีดีพีปี 61 ในกรอบ 3.7-3.9%
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC SCB) เปิดเผยว่า EIC SCB ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2560 เติบโต 3.8% จากเดิมที่ 3.6% หลังจากรายงานตัวเลขจีดีพีของไทยไตรมาส 3 ปี 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ขยายตัวที่ 4.3% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า หรือเติบโต 1.0% หากเทียบกับไตรมาสก่อนแบบปรับฤดูกาล ทำให้ GDP ของไทยในช่วง 9 เดือนแรก ขยายตัวได้ที่ 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ตามเศรษฐกิจโลกที่เติบโตได้ดีเกินคาดอย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนการส่งออกสินค้าให้เติบโตได้ต่อในช่วงที่เหลือของปี โดยเศรษฐกิจคู่ค้าหลักทั้งสหรัฐฯ ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน ที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ตลอดจนปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นด้านการค้า การลงทุน การบริโภค และส่งผลต่อเนื่องถึงความต้องการสินค้าส่งออกจากไทยให้เติบโตได้ต่อ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของภาคการส่งออกในระยะต่อไปอาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำและราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทที่มีแนวโน้มหดตัว อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค อาจกระทบความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาของผู้ส่งออก โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์
ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปัจจัยลบที่คลี่คลาย และการสนับสนุนจากภาครัฐ แม้แนวโน้มรายได้ยังติดขัด การบริโภคในประเทศกลับมาฟื้นตัว ตามบรรยากาศการใช้จ่ายที่สดใสขึ้นหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงอุทกภัย รวมถึงกิจกรรมการบริโภคต่าง ๆ ก็กลับมาดำเนินการได้หลังพ้นช่วงไว้อาลัย นอกจากนี้ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านช่องทางบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการช็อปช่วยชาติ ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อของภาคครัวเรือนในประเทศยังค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งจากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำ และจากตลาดแรงงานที่ซบเซา เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี ยังคงหดตัวลง 0.7%YOY โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคการผลิตลดลงถึง 3.2% YOY แสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวของการส่งออกยังไม่ได้ส่งผ่านไปสู่การจ้างงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากนัก
สำหรับปี 2561 มองเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยว เติบโตได้ ประกอบกับการลงทุนภาคเอกชนที่จะเริ่มตามมาเพื่อรองรับอุปสงค์ที่ขยายตัว รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีของบริษัทขนาดใหญ่ และของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการลงทุนภาคเอกชนของไทยระยะต่อไป ในภาพรวม หลายปัจจัยในเศรษฐกิจมีแรงส่งที่ชัดเจนขึ้น ยกเว้นกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่ยังคงอ่อนแอ และยังไม่เห็นสัญญาณการเติบโตที่ชัดเจน ทั้งนี้ อีไอซี ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2561 อยู่ในช่วง 3.7-3.9% YOY