ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป “บุญ วนาสิน” คาดนำ “ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีนี้ หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนโครงการตามแผนต่อเนื่อง ขณะอวดผลงาน Q3 กำไร 171 ล้านบาท และรายได้รวม 1,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% และ 5.9% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นพ. บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำบริษัทฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทันภายในปีนี้ หลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ที่ได้อัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อย
บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.01 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 849.08 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 849.08 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 764.08 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลงานไตรมาส 3 ของบริษัท พบว่ามีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) 171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) 156.04 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,646.77 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยมาจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลที่เติบโตได้ดีประมาณ 6.7% เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในในที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการรักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคเฉพาะทางเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2560) มีรายได้รวม 4,874.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,661.24 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล การขายสินค้าและการให้บริการเติบโตได้ดีในทุกส่วน และมีกำไรสุทธิ 401.37 ล้านบาท ชะลอตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 428.96 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนโครงการต่าง ๆ ตามแผนงานที่วางไว้ เช่น การเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการของ Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ซึ่งได้ทำพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเป็นโรงพยาบาลไทยแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในจีน, การร่วมทุนในโครงการโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 ของปีหน้า, การพัฒนาโครงการ JIN Wellbeing County ในย่านรังสิต ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัย และให้บริการทางการแพทย์อย่างครบวงจร ภายใต้คอนเซ็ปต์เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ และโครงการพัฒนาอาคารบำรุงเมืองพลาซ่า (อาคารโซโห) ให้เป็นโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี แห่งใหม่บนถนนบำรุงเมือง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายและกายภาพบำบัด ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว รวมถึงส่งผลดีต่อโรงพยาบาลธนบุรี ให้สามารถรับผู้ป่วยหนักเข้ารับการรักษาได้มากยิ่งขึ้น ฯลฯ
“เราได้เดินหน้าลงทุนโครงการต่าง ๆ ตามแผนงาน เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคต ทั้งการขยายการลงทุนในไทย และต่างประเทศ รวมถึงการขยายกำลังการให้บริการของโรงพยาบาลที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้” นพ.บุญ กล่าว