xs
xsm
sm
md
lg

ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด Q3 ผลงานโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด ไตรมาส 3 กำไร 112 ล้านบาท โตกว่า 1,020% เทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะมีรายได้ 2,360 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปีนี้โชว์ผลงาน โกยรายได้ 7,119.65 ล้านบาท โตเฉียด 13% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 312 ล้านบาท พุ่ง 949% ผลดีจากผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียมกำไรดี อีกทั้งยอดขายที่สูงขึ้น ล่าสุด ต่อสัญญากับลูกค้ารายใหญ่ Ainsworth Pet Nutrition เชื่อดันผลงานโตต่อเนื่อง

นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทิร์นดรอป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานบริหารสายการเงิน บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ รับรองงบไตรมาส 3/2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,020% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดใหม่ สำหรับไตรมาส 3 แม้มีรายได้ 2,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพียง 1% ปัจจัยหลักมาจากปริมาณการขายอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์น้ำ ที่เพิ่มขึ้น ชดเชยยอดขายในกลุ่มทูน่า กุ้ง และหมึกที่ลดลง ยอดขายเชิงปริมาณโดยรวมเพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับงวด 9 เดือนแรกบริษัทฯ มีรายได้รวม 7,119.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 816.20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.95% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 6,303.45 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 949% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 29.74 ล้านบาท ไตรมาส 3/2560 ผลประกอบการยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 หนุนรายได้ กำไรทั้งปีเติบโตอย่างโดดเด่น หากเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม ในไตรมาส 3/2560 ที่ผ่านมา ยอดขายโต 67% และมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 4/2560 อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารจะมุ่งมั่นขยายการเติบโตของธุรกิจ เน้นให้ความสำคัญและพัฒนาสินค้าให้มีอัตรากำไรในระดับที่น่าพอใจ เชื่อว่า อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปี 2560 จะทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่ 9.5% แม้ว่าค่าเงินบาทจะส่งผลกระทบในทางลบ

“ผลประกอบการไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 260 ล้านบาท คิดเป็น 11% ของรายได้ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 7.6% เนื่องจากการปรับปรุงสัดส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะส่งผลกระทบในเชิงลบ จากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 5% เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักที่บริษัทใช้ในการส่งออก คือ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินเยนญี่ปุ่น โดยอัตรากำไรเป็นที่น่าพอใจ และยังคงเป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวที่วางไว้ ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และทำสถิติกำไรสำหรับไตรมาส 3 ที่สูงที่สุด เป็นผลจากกำไรขั้นต้นสูงขึ้น และมีค่าใช้จ่ายลดลง” นายเฮ็นริคคัส กล่าว

สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 2560 บริษัทฯ คาดว่าอาจทำรายได้ไม่ทะลุเป้า 10,500 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็ง อยู่ในภาวะซบเซากว่าปกติ ทั้งที่เป็นช่วงไฮซีซัน แต่เชื่อว่า กำไรยังเติบโตต่อเนื่อง และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาศัยแรงหนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ที่บริษัทเพิ่งได้ต่อสัญญากับลูกค้ารายใหญ่ Ainsworth Pet Nutrition เป็นเวลา 3 ปี และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำ ที่มียอดขายในปีนี้เติบโตโดดเด่นไม่แพ้กัน
กำลังโหลดความคิดเห็น