เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น ยังคงทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย 9 เดือนแรกปีนี้ ทำได้แล้ว 15,305.3 ล้านบาท สูงกว่ารายได้ของปี 59 ทั้งปี และมีกำไรสุทธิ 1,140.2 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 4,307% ปัจจัยหลักจากปริมาณและราคาน้ำตาลปีนี้ที่สูงกว่าปีก่อน
นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม-กันยายน 2560) กลุ่ม KTIS มีรายได้รวม 15,305.3 ล้านบาท สูงกว่าปี 2559 ทั้งปีที่มีรายได้รวม 15,086.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือน 1,140.2 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2559 ถึง 4,307%
“จากตัวเลข 9 เดือน จะเห็นว่า รายได้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่เคยคาดการณ์ไว้ ที่คาดว่าจะทำรายได้ในปี 2560 นี้ ได้เกิน 20,000 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในระดับ 1,140 ล้านบาท ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ” นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว
นายณัฎฐปัญญ์ กล่าวด้วยว่า หากดูเฉพาะตัวเลขของไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ พบว่า รายได้ของสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย เติบโตสูงสุดถึง 30% เนื่องจากปริมาณการขายเยื่อกระดาษเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาเฉลี่ยจะลดลง รองลงมาเป็นการผลิตและจำหน่ายเอทานอล ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 8.7% จากราคาขายที่สูงขึ้น และธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 4% อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลมีรายได้ลดลง เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปี
สำหรับผลผลิตอ้อยของฤดูกาลผลิตปี 2560/2561 หากมองในภาพรวมของอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งประเทศ พบว่า แม้พื้นที่ปลูกอ้อยในประเทศบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอยู่บ้าง แต่คาดการณ์ว่า ปริมาณผลผลิตอ้อยจะสูงถึงกว่า 100 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่มีปริมาณผลผลิตอ้อย 93 ล้านตัน และในส่วนของปริมาณอ้อยของกลุ่ม KTIS จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน