xs
xsm
sm
md
lg

“AP-SIRI” โชว์ 10 เดือน ยอดขายบ้านแนวราบทะลุค่ายละกว่าหมื่น ล.-“พฤกษา” ปูพรมโครงการ ตจว.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายภมร ประเสริฐสรรค์
เอพี ชี้แนวโน้มตลาดบ้านแนวราบโตต่อเนื่อง เผยครองส่วนแบ่งตลาดทาวน์โฮมหรู 59% จากมูลค่าตลาด 3 หมื่นล้านบาท เตรียมเปิดบ้านแนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 7,700 ล้านบาท เผย 10 เดือน ยอดขาย 12,700 ล้านบาท โต 16% ด้านแสนสิริ ระบุ รายได้การขายโครงการบ้านเดี่ยว หนุนผลประกอบการไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน เผย 10 เดือน ยอดพรีเซลส์กว่า 11,000 ล้านบาท เท่ากับทั้งปี 59 พร้อมลุยเปิด 11 โครงการ โค้งส่งท้ายปี “พฤกษา” เตรียมเปิดบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ 7 โครงการใหม่ มูลค่า 5,500 ล้านบาท ปักธง 3 จังหวัด เขต EEC เกาะทำเลนิคมอุตสาหกรรม เผยเตรียมรุกต่างจังหวัดเพิ่มอีก 23 จังหวัด รักษาผู้นำตลาดอสังหาฯ ไทย ด้าน “เอสซี” ระบุยอดขายโครงการแนวราบช่วง 10 เดือน ทำ new high เติบโต 35%

นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาคึกอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดทาวน์โฮมในกลุ่มเซกเมนต์กลาง-บน ทำเลใจกลางเมือง ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าครอบครัวเมืองเจนเนอเรชันใหม่ (อายุไม่เกิน 35 ปี) สะท้อนจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าไฮเอนด์ทาวน์โฮม “บ้านกลางเมือง” ที่เป็นกลุ่มครอบครัวเมืองเจนเนอเรชันใหม่ จากสัดส่วน 39% ในปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70% ในไตรมาส 3/2560
THE CITY พัฒนาการ
นอกจากนี้ ยังพบว่า ภาพรวมตลาดทาวน์โฮมในเมือง 3 ชั้น ราคา 4-9 ล้านบาท ย้อนหลัง 5 ปี มีโครงการเปิดใหม่ 34 โครงการ มีมูลค่ารวม 30,916 ล้านบาท ซึ่งเอพี ครองส่วนแบ่งตลาดอับดับหนึ่งที่ 59% ในแบรนด์บ้านกลางเมือง โดยมีมูลค่ารวม 17,750 ล้านบาท จากสัดส่วนการเพิ่มขึ้นดังกล่าวนั้น ยังสะท้อนให้เห็นพฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของคนเมืองเจนเนอเรชันใหม่ ที่เปลี่ยนการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม มาเป็นการใช้ชีวิตในไฮเอนด์ทาวน์โฮมแทน ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในมากขึ้น และการมีโลเคชันในเมืองยังช่วยลดระยะเวลาการเดินทางอีก

นายภมร กล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 เอพี มีแผนเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวม 49,040 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบรวม 22 โครงการ มูลค่ารวม 24,940 ล้านบาท (บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่ารวม 12,350 ล้านบาท และทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่ารวม 12,590 ล้านบาท) และแนวสูง 3 โครงการ มูลค่ารวม 24,100 ล้านบาท ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 22 โครงการ สำหรับ 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 เตรียมเปิดตัวโครงการแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ มูลค่า 5,300 ล้านบาท และทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่า 2,400 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 11-12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวไป 2 โครงการ คือ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่เศษ เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 18 ตารางวา จำนวน 204 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 4.99-9.29 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 15% และบ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 32 ไร่เศษ จำนวน 334 ยูนิต ขนาด 18 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นที่ 4.29 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายทั้งหมด 13%

ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายในส่วนโครงการแนวราบไว้ที่ 13,600 ล้านบาท ซึ่ง ณ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ในส่วนของยอดขายโครงการแนวราบ จำนวน 12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปี 2559
นายวันจักร์ บุรณศิริ
“แสนสิริ” รุกทำเลอยุธยา เปิดแบรนด์ใหม่

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า ตามแผนลงทุนและเปิดโครงการในปีนี้ จะมีทั้งหมด 19 โครงการ มูลค่าการขาย 48,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงที่มีการเปิดโครงการมากที่สุดถึง 11 โครงการ อาทิ โครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ “อณาสิริ อยุธยา” มูลค่าการขาย 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแรกที่รุกทำเลอยุธยา จะเปิดพรีเซลส์ในวันที่ 24-25 พ.ย. นี้ นอกจากนี้ เตรียมเปิดโครงการ “คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน” จำนวน 293 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท รวมถึงเตรียมผลักดัน “ดีคอนโด แคมปัส” คอนโดฯ ใกล้มหาวิทยาลัย เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ปกครอง และนักศึกษา โดยเตรียมเปิดตัว “ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน” จ.นครปฐม จำนวน 766 ยูนิต มูลค่า 1,300 ล้านบาท เปิดจอง 18-19 พ.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท

“แผนการเปิดโครงการปี 2561 ยังอยู่ระหว่างการเสนอบอร์ด โดยต้องดูผลสำเร็จในปีนี้ ซึ่งตัวเลขหลาย ๆ ตัว แสนสิริยังทำได้ตามเป้าหมายทั้งยอดพรีเซลส์ที่ในช่วง 9 เดือน สามารถทำได้ 31,000 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของเป้าทั้งปี ซึ่งอีก 9,000 ล้านบาท น่าจะเป็นตัวเลขที่สามารถทำให้ได้เป้า ส่วนจะหลุดหรือเกินไปเท่าไหร่ ยังบอกไม่ได้ ขณะที่สิ่งที่ต้องมาดู คือ ตัวเลขเป้ารับรู้รายได้ที่ปีนี้วางไว้ 28,000 ล้านบาท จะมีโครงการดึงไปเปิดปีหน้าหรือไม่ โดยช่วง 9 เดือน บุ๊กไปแล้ว 19,000 ล้านบาท และมีแบ็กล็อกที่รอบุ๊กอีก 5,400 ล้านบาท รวมทั้งสองตัว จะคิดเป็น 88% ของเป้าทั้งปี”

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ว่า มีรายได้รวม 7,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เหตุมาจากรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น 22%และรายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้น7% ส่งผลให้ไตรมาสนี้มีกำไร 706 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน พบว่า มีรายได้รวม 23,129 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.9% โดยในงวดนี้ รายได้ค่าบริการเพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้จากการขายโครงการอยู่ที่ 19,126 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 59 ที่ทำได้ 19,893 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนสามารถทำกำไรได้ 2,022 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15%

ทั้งนี้ หากลงลึกในประเภทสินค้า พบว่า ทั้งไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน สินค้าประเภทบ้านเดี่ยว อยู่ที่ 3,191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.8% และ 8,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% ตามลำดับ ส่วนรายได้จากโครงการคอนโดฯ อยู่ที่ 2,236 ล้านบาท ลดลง 37.7% และ 9,798 ล้านบาท ลดลง 51.2%

" จะเห็นได้ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยอดขายโครงการบ้านแนวราบสามารถทำได้เฉลี่ย 11,000 ล้านบาทต่อปี แต่ช่วง 10 เดือนแรกของปี 60 ยอดพรีเซลส์ทำได้เท่ากับปีที่ผ่านมาทั้งปี หรือเติบโตขึ้น 20-30% "
นายปิยะ ประยงค์
PS ปักธง EEC ลุยเปิด 7 โครงการใหม่ 5.5 พัน ล.

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในปี 2561 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในจังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นการลงทุนระดับเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐบาล ที่จะช่วยผลักดันและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน โดยคาดว่าจะมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมากจากแรงงานที่หลั่งไหลเข้ามาทำงานในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้เตรียมเปิดโครงการใหม่ จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,500 ล้านบาท เป็นสินค้าประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ แบ่งเป็นฉะเชิงเทรา จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา บ้านโพธิ์-มอเตอร์เวย์ ชลบุรี จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา หนองมน-ชลบุรี, เดอะแพลนท์ หนองมน-ชลบุรี และบ้านพฤกษา ทุ่งกลม-ตาลหมัน และระยอง 3 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา ปลวกแดง-อีสท์เทิร์น, บ้านพฤกษา เกาะกลอย-ระยอง และเดอะแพลนท์ เกาะกลอย-ระยอง จับกลุ่มลูกค้าที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยจะเริ่มทยอยเปิดขายในเดือนมกราคม ปี 2561 และเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงได้ศึกษาความเป็นไปได้จังหวัดอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น นครราชสีมา นครปฐม และอื่น ๆ อีก 23 จังหวัด โดยพฤกษา เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความได้เปรียบเชิงการแข่งขันทั้งในด้านของดีไซน์, ฟังก์ชัน, นวัตกรรม, คุณภาพบ้าน และบริการหลังการขายต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐานเดียวกันทุกโครงการ (Pruksa Quality Standard) คาดว่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาดต่างจังหวัดเช่นเดียวกับที่เคยรุกตลาดในชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต มาแล้วก่อนหน้านี้
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์
SC ระบุยอดขายแนวราบทำ new high โต 35%

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค. 60) ว่า การเติบโตของยอดขายทำสถิติดีเยี่ยม มียอดขายรวม 12,267 ล้านบาท เติบโต 32% ซึ่งมาจากโครงการแนวราบ 70% และแนวสูง 30% โดยความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากยอดขายแนวราบช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา เติบโต new high 35% รวม 8,500 ล้านบาท สามารถรักษาส่วนแบ่งตลาด (Market Share) อันดับ 1 ของบ้านราคามากกว่า 15 ล้านบาท เติบโต 73% (YoY) และอันดับ 2 ในกลุ่มบ้านเดี่ยวราคามากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป เติบโต 16% (YoY)

ยอดขายบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท เติบโตถึง 188% และเริ่มมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ในระดับ top 10 เป็นครั้งแรก และสุดท้าย สำหรับยอดขายแนวสูง โครงการ 28 Chidlom สูงถึง 80% ของอาคาร The Tower ซึ่งเป็นอาคารแรกที่เปิดขาย

“ปี 2560 นี้ SC จะมียอดขายเติบโตตามเป้าหมาย 16,000 ล้านบาท เติบโต 38% (YoY) โดยปัจจัยสำคัญ คือ การเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,200 ล้านบาท เป็นโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด 4 โครงการ บนทำเลคุณภาพ เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท และทาวน์โฮม 2 ชั้น แบรนด์ใหม่ 1 โครงการ ชื่อ โครงการเวิร์ฟ เพชรเกษม 81 เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท พร้อมกับได้จัดแคมเปญพิเศษรวม 15 โครงการทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม จัดโปรแรงสุดแห่งปีถึง 17 ธ.ค. นี้”
โครงการเวิร์ฟ เพชรเกษม 81 เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น