บีอีซี เวิลด์ ขาดทุนหนัก ไตรมาส 3 กำไรสุทธิเหลือ 34 ล้านบาท ลดจากปีก่อนถึง 216 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86.14% ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 396 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำไรกว่า 1,288 ล้านบาท หายไปกว่า 892 ล้านบาท หรือ 69.23% ผู้บริหารเผยเกิดจากเวลาการขายโฆษณาวูบกว่า 14%
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC แจ้งผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 ว่า บริษัทกำไรสุทธิ 34.81 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 251.14 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิลดลง 216.33 ล้านบาท หรือ 86.14%
ขณะที่ผลการดำเนินสะสมงวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 396.49 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.20 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,288.51 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.64 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิลดลง 892.02 ล้านบาท หรือ 69.23%
ไตรมาส 3/2560 บริษัทมีรายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC อยู่ที่ 2,540.6 ล้านบาท ลดลง 6.4% จากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 2,714.1 ล้านบาท และลดลง 14% จากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 2,952.9 ล้านบาท ตามจำนวนนาทีโฆษณาของ “ช่อง 3” ที่ขายได้น้อยลงตามความซบเซาของตลาด ทั้งนี้ รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นในไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ 161.1 ล้านบาท ลดลง 10.8% จากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 180.5 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 10.2% จากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 146.1 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการจัดคอนเสริ์ตและการแสดงนั้น มีรายได้และกำไรขั้นต้นเพียงเล็กน้อย อีกทั้งรายได้จากการให้บริการอื่นลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีกิจกรรม “Love is in the air” ในวาระครบรอบปีของช่อง 3 ทั้งนี้ รายได้รวมของกลุ่ม BEC ในไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ 2,751.8 ล้านบาท ลดลง 15% จากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 3,239.2 ล้านบาท และลดลง 16.4% จากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 3,293.3 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายรวมของกลุ่ม BEC ในไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ 2,324.4 ล้านบาท ลดลง 10.9% จากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 2,607.7 ล้านบาท และลดลง 5.9% จากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 2,470.5 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของต้นทุนการจัดคอนเสิร์ต และแสดงโชว์ และจากความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่าย แม้กลุ่ม BEC ได้มีต้นทุนการถ่ายทอดกีฬาที่เพิ่มขึ้น และจากความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่ายนี้ ต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2559 จากต้นทุนการถ่ายทอดกีฬาที่เพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายลดลงจากไตรมาสที่ 2/2560
ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 427.4 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3/2560 ลดลง 32.3% จากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 631.5 ล้านบาท และลดลง 48.1% จากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 822.8 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 3/2560 อัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 15.5% นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและการให้บริการรวมของกลุ่ม BEC ในไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ 425.1 ล้านบาท ลดลง 8.6% จากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 465 ล้านบาท และลดลง 12.3% จากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 484.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในกำรบริหารจากนโยบายการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 47.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2/2560 ที่ 45.4 ล้านบาท และจากไตรมาสที่ 3/2559 ที่ 45.1 ล้านบาท