บริษัท ณุศาศิริ จำกัด(มหาชน) หรือหุ้น NUSA แม้จะเป็นบริษัทจดทะเบียนอีกแห่งที่เพิ่มทุนถี่ยิบ ในรอบ 3 ปีที่ระดมทุนไปแล้วกว่า 10 รอบ
แต่เป็นครั้งแรกที่ประกาศเพิ่มทุน เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม คณะกรรมการบริษัท NUSA มีมติเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 9,083.96 ล้านหุ้น เป็น 10,488.54 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ที่ 1 บาท/หุ้น โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 694.71 ล้านหุ้น แล้วเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 50 สตางค์
นอกจากนี้ยังเอาใจผู้ถือหุ้นด้วยการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นหุ้นสามัญ (Warrant) ฟรี ในสัดส่วน 1 หุ้นใหม่ต่อ 1 วอร์แร้นต์ ราคาแปลงสภาพหุ้นละ 1 บาท กำหนดชำระค่าหุ้นระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม พ.ศ. 2561
ราคาหุ้น NUSA ปิดล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่ ราคา 49 สตางค์ ต่ำกว่าราคาหุ้นใหม่ที่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม
หลังจากประกาศเพิ่มทุน NUSA ได้แจ้งการได้มาซึ่งทรัพย์สิน โดยการคว่ำกระจาดเทเงินซื้อหุ้นบริษัท พานาซี เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านดูแลสุขภาพ จำนวนกว่า 3.6 ล้นหุ้น หรือ 90% ของทุนจดทะเบียน จากกลุ่มนางสาววัชราภรณ์ ไกรศักดาวัฒน์ ในราคาหุ้นละ 200 บาท รวมเป็นเงินกว่า 720 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2557 หุ้น NUSA ประกาศเพิ่มทุน 4 ครั้ง นำหุ้นใหม่เสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP) ทั้ง 4 ครั้ง พอปี พ.ศ. 2558 ก็มาประกาศเพิ่มทุนอีก 8 ครั้ง แล้วนำหุ้นใหม่ขายบุคคลในวงจำกัดทั้ง 8 ครั้ง เพิ่งจะนำหุ้นใหม่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในการเพิ่มทุนครั้งล่าสุด
ผลประกอบการ NUSA ลุ่มๆดอนๆ ปี พ.ศ. 2557 และ ปี พ.ศ. 2558 กำไรสุทธิปีละ 50 ล้านบาทเศษ แต่พอมาปี พ.ศ. 2559 ขาดทุนกราวรูดสุทธิ 201.85 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปี พ.ศ. 2560 ฉีกกระดาษขาดทุนสุทธิ 65.77 ล้านบาท
ย้อนไปมองบอร์ดโครงสร้างผู้ถือหุ้น NUSA ประกอบด้วยผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 7,460 คน ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 81.84% ของทุนจดทะเบียน โดยกลุ่ม ”เทพเจริญ” ถือหุ้นรวมกันประมาณ 16% ของทุนจดทะเบียน และเป็นกลุ่มผู็มีอำนาจผู้บริหารบริษัท
การเพิ่มทุนครั้งใหม่ ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเป็นเจ้าภาพรายใหญ่ ร่วมกันควักกระเป๋า ซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพื่อยกประเคนให้กลุ่ม ”เทพเจริญ” นำไปบริหารต่อ
NUSA ประกาศเพิ่มทุนมานับสิบรอบ แต่ยังไม่ได้สร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนสักเท่าไหร่ ราคาหุ้นซึมลง โดยปีนี้เคลื่อนไหวอยู่แถว 40-50 สตางค์ การเพิ่มทุนของ NUSA มีลักษณะตอดเล็กตอดน้อย เพิ่มทุนคราวละไม่มาก แต่เพิ่มทุนถี่ ซึ่งไม่เข้าใจว่า ทำไมบุคคลในวงจำกัด จึงยอมใส่เงินให้กลุ่ม “เทพเจริญ” ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่ไม่น่าจะมีใครได้รับผลตอบแทนจาก NUSA อย่างเป็นกอบเป็นกำ
นโยบายการจ่ายเงินปันผล กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ แต่ถ้าย้อนดูผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง แม้จะมีกำไรสุทธิ แต่คณะกรรมการ NUSA ไม่ยอมจ่ายเงินปันผล มีแต่เพิ่มทุนสูบเงินเข้าลูกเดียว ก่อนนำเงินไปซื้อทรัพย์สินและขยายการลงทุน การประกาศเพิ่มทุนครั้งล่าสุด คณะกรรมการ NUSA ต้องการสูบเงินอีกเพียง 347 ล้านบาทเท่านั้น
หลอกใช้เงินผู้ถือหุ้นรายย่อยเกือบ 8 พันราย ผ่านกลการเพิ่มทุน ควักจ่ายลงขันทูนหัวให้ผู้คณะกรรมการบริษัทฯนำไปบริหาร
แม้การออกหุ้นใหม่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคา 50 สตางค์ จะไม่สร้างภาระให้ผู้ถือหุ้นเดิมมากเกินไป แต่ถึงจะเป็นเงินเล็กเงินน้อย แต่ใส่ไปแล้วหายสาบสูญ ไม่ได้รับผลตอบแทนคืนกลับ นักลงทุนต้องถามใจตัวเองแล้ว
เมื่อไหร่ "ณุศา" ถึงจะอิ่ม เท่าไหร่ถึงจะพอ จะต้องให้ใส่เงินเข้าไปใน NUSA อีกเท่าไหร่หรือ?