“ฮาบิแทท” เผยแผนปี 61 บุกตลาด กทม. ครั้งแรก เปิดตัว 4-5 โครงการใหม่ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ยึดตลาดโซนสุขุมวิท-สาทร-สีลม ผุดโครงการใหม่ ระบุศักยภาพในการปล่อยเช่าสูง พร้อมผุดคอนโดพักอาศัย 3-4 โครงการ แจงได้ที่ดินย่านอโศกแปลงแรกแล้ว คาด Q1-2 ปี 61 เปิดตัวคอนโดฯ พร้อมบ้านแนวราบในซอยร่วมฤดี ซึ่งเลื่อนไปเปิดตัวในปีหน้า ล่าสุด เปิดตัว “วินด์แฮม แอสลาส วงอมาตย์ พัทยา” คอนโดโลว์ไรส์ระดับลักชัวรี มูลค่า 800 ล้าน แจงยอดขายแล้ว 30%
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในปี 61 จะเป็นปีแรกที่บริษัทจะขยายตลาดเข้าสู่ตลาด กทม. โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 4-5 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาโครงการในพื้นที่พัทยา 1-2 โครงการ ซึ่งยังคงรูปแบบการลงทุนคอนโดมิเนียมตลาดกลาง-บน เพื่อการลงทุน ส่วนอีก 3-4 โครงการ จะเป็นการพัฒนาคอนโด เพื่ออยู่อาศัย และลงทุน ในพื้นที่กรุงเทพฯ เน้นทำเลโซนสุขุมวิท ซึ่งมีศักยภาพในการปล่อยเช่า และโครงการแนวราบในซอยร่วมฤดี ที่เลื่อนเปิดขายในปีนี้ไปเปิดขายในปีหน้า โดยตั้งงบซื้อที่ดินพัฒนาโครงการใหม่ไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ
“มีที่ดินรอพัฒนาโครงการใหม่ที่ซื้อเข้ามาแล้วในย่านอโศก พื้นที่ประมาณ 300 ตารางวา เพื่อพัฒนาคอนโด ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาส 1-2 ของปีหน้า พร้อมกับโครงการแนวราบในซอยร่วมฤดี ที่ต้องเลื่อนเปิดตัวจากปีนี้ไปเปิดตัวในปีหน้า ส่วนการเลือกซื้อที่ดินแปลงใหม่ ๆ จะยังโฟกัสที่ทำเลสุขุมวิท สาทร สีลม ซึ่งมีศักยภาพในการปล่อยเช่า ส่วนในพัทยา ยังให้ความสนใจหาที่ดินในโซนวงศ์อมาตย์ และพัทยานาเกลือ เพราะมีพื้นที่ติดหาดมีศักยภาพเหมาะสำหรับพัฒนาห้องพักระดับ 5 ดาว”
สำหรับคอนเซ็ปต์พัฒนาโครงการใน กทม. นั้น จะเน้นเป็นโครงการคอนโดพร้อมเฟอร์นิเจอร์พักอาศัย และลงทุน แต่จะไม่ใช้เชนโรงแรมเข้ามาบริหาร และการันตีผลตอบแทนเช่นเดียวกันโครงการในพัทยา แต่จะใช้รูปแบบการบริการหลังการขาย ปล่อยเช่าให้ลูกค้า โดยจะต้องทำสัญญาปล่อยเช่าระยะยาว 1 ปีต่อสัญญาครั้ง
ล่าสุด ฮาบิแทท ได้เปิดตัวโครงการ “วินด์แฮม แอสลาส วงอมาตย์ พัทยา” คอนโดโลว์ไรส์ระดับลักชัวรี่ สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 1 ไร่ 53 ตารางวา ในซอยนาเกลือ 22 จำนวน 192 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้น 25-57 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 3.8-9 ล้านบาท มูลค่ารวม 800 ล้านบาท เน้นจับกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อการลงทุนโดยการันตีผลตอบแทน 6% ใน 5 ปีแรก และปีที่ 6 เป็นต้นไป จะแบ่งผลกำไรให้กับเจ้าของห้องชุด 60%
สำหรับโครงการ วินด์แฮมฯ ถือเป็นโครงการที่ 6 ที่บริษัทได้พัฒนามา และเป็นโครงการที่ 3 ที่เปิดตัวในปีนี้ ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% จากกลุ่มลูกค้าเก่า คาดว่าสิ้นปีจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 50% และจะสามารถปิดการขายใน 6 เดือนจากนี้
“ปัจจุบัน บริษัทมีห้องชุดที่อยู่ระหว่างขาย 1,300 ล้านบาท จาก 3 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท นับรวมโครงการ วินด์แฮมวงศ์อมาตย์ฯ ซึ่งเปิดใหม่ด้วย โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดโอนหรือรายได้ในปีนี้ 300 ล้านบาท จากการโอนโครงการ ครอสทูไวบ์พัทยา ซีเฟียร์เรสซิเดนซ์ และมีรายได้จากการปล่อยเช่าห้องชุดในโครงการ เดอะวิลเลจจอมเทียน 50 ล้านบาท”