รองนายกฯ เผยให้รอลุ้นมาตรการช็อปช่วยชาติ นายแบงก์มองผลบวก ศก. โตเร็ว-แรงขึ้น

รองนายกฯ เผยให้รอลุ้นมาตรการช็อปช่วยชาติ หลังการประชุม ครม. วันพรุ่งนี้ ด้านนายแบงก์มองผลบวกทำให้เศรษฐกิจโตเร็ว-แรงขึ้น

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี เช่น มาตรการช็อปช่วยชาติ โดยระบุว่า ขอให้ติดตามในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ซึ่งจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากมีมาตรการช็อปช่วยชาติ ก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจ เดินเครื่องได้เร็ว และแรงขึ้น จากปัจจุบันที่ตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว โดยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.7 จากเดิมร้อยละ 3.4 และมาตรการช็อปช่วยชาติ ก็มีประโยชน์สำหรับประชาชนที่สามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้

“หากมีมาตรการช็อปช่วยชาติ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เครื่องจักร กระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเร็ว และแรงขึ้น” นายปรีดี กล่าว

นายปรีดี กล่าวว่า เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้นเป็นผลบวกต่อการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าปีนี้สินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย จะขยายตัวร้อยละ 4-6 และปีหน้า จะเพิ่มเป็นร้อยละ 5-7 ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4 ก็มีโอกาสที่ธนาคารจะปรับเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น

ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลัง มีแนวคิดจะร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ. ... ที่จะมีการยึดเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเข้าสู่กรมบัญชีกลาง โดยระบุว่ายังต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจน แต่หากกระทรวงการคลังออกมาเป็นกฎหมาย สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลกระทบต่อสถาบันการเงิน เนื่องจากบัญชีดังกล่าวมีสัดส่วนเล็กน้อย วงเงินรวมทั้งระบบเพียง 10,000 ล้านบาท จากเงินฝากทั้งระบบที่มีอยู่ 10 ล้านล้านบาท

ส่วนกรณีที่ผู้ฝากเงินที่มีบัญชีดังกล่าวต้องการถอนเงินคืน ก็สามารถทำได้ โดยติดต่อกับธนาคารที่มีเงินฝาก หากเงินยังไม่ถูกโอนไปที่บัญชีของกรมบัญชีกลาง ซึ่งธนาคารจะเน้นการดูแลลูกค้าให้ได้รับความสะดวกตามปกติ แต่หักเงินในบัญชีดังกล่าวถูกโอนไปแล้ว ก็ให้ติดต่อกับกระทรวงการคลัง