xs
xsm
sm
md
lg

“เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย” เดินหน้าเข้าเทรดใน mai ระดมทุนขาย IPO 140 ล้านหุ้น ขยายธุรกิจสื่อคอนเทนต์บันเทิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN
เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น mai ตั้งเป้าขาย IPO กว่า 140 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และคอนเทนต์รายการจากต่างประเทศ และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ ตั้งเป้าหมายระยะกลางเป็นผู้นำด้านนำเข้าและส่งออกลิขสิทธิ์คอนเทนท์ครอบคลุมระดับภูมิภาคและระดับโลก

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ที่ 0.50 บาท/หุ้น ในตลาดหุ้น  เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจุดประสงค์ของการเข้าระดมทุนในครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายธุรกิจด้านโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และลิขสิทธิ์คอนเทนต์ โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ด้านในส่วนของคอนเทนท์รายการจากต่างประเทศ และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป

นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายระยะกลางที่จะเป็นผู้นำด้านนำเข้าและส่งออกลิขสิทธิ์คอนเทนท์ครอบคลุมระดับภูมิภาคและระดับโลกโดยในปี 2559 บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิจาก National Broadcasting Company Universal (NBC) เพื่อซื้อและผลิตคอนเทนต์ภายใต้แบรนด์ Consumer News and Business Channel (CNBC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนที่มีชื่อเสียงของโลก โดยสัญญามีระยะเวลา 10 ปี (2560-2570) ทั้งนี้ สิทธิ์ที่ได้รับแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ในส่วนแรก ตั้งแต่ปี 2560-2570 บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการนำเสนอคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ที่ผลิตและออกอากาศในต่างประเทศมาทำการตัดต่อ แปลและพากษ์เสียงภาษาไทยสำหรับจำหน่ายต่อผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์เพื่อออกอากาศในประเทศไทย โดยได้เริ่มจำหน่ายคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสถานีโทรทัศน์แบบดิจิตอล เช่น ช่อง 3 และ Bright TV  ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ส่วนที่ 2 ในช่วงปี 2562-2570 บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการผลิตรายการที่มีโครงสร้างรูปแบบรายการตามรายการของแบรนด์ CNBC โดยใช้พิธีกรและผู้ดำเนินรายการคนไทยในการผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนเพื่อออกอากาศในช่อง JKN CNBC ซึ่งดำเนินการโดบริษัทฯย่อย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด โดยในระหว่างการเตรียมดำเนินการดังกล่าว ทาง CNBC ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาฝึกอบรมให้แก่ทีมงานเพื่อผลิตรายการให้ได้คุณภาพเท่าเทียมกับมาตรฐานสากลของ CNBC และบริษัทฯ จะลงทุนสร้างห้อง Master Control Room (MCR) ซึ่งเป็นห้องสำหรับการออกอากาศและลงทุนในอุปกรณ์ออกอากาศและผลิตรายการอีกด้วย

“เรามีวิสัยทัศน์เป็นผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล และนำเข้าคอนเทนต์ชั้นนำจากต่างประเทศเพื่อเผยแพร่ในไทยและกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงเป็นผู้ผลิตและถือครองลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อจำหน่ายและเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทฯ ต่อไป” นายจักรพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี JKN และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้ผู้ประกอบธุรกิจสื่อทั้งในและต่างประเทศ เช่น สื่อโทรทัศน์ทุกระบบ สื่อออนไลน์ (Video On Demand :VOD) และผู้ประกอบการธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Home Entertainment) เป็นต้น

2. ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าทางสถานีโทรทัศน์ระบบผ่านดาวเทียม (Satellite) และสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลซึ่งซื้อจากสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล และ

3. ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาทิ สินค้าประเภท Home Entertainment (DVD, Blu-ray)

ขณะที่ในส่วนของรายได้งวด 6 เดือนแรก ปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 537.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 เท่ากับ 163.60 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของรายได้ค่าลิขสิทธิ์ โดยลูกค้ารายเดิมมีการซื้อคอนเทนท์เพิ่มเป็นหลักและมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น

ในส่วนของผลประกอบการบริษัทที่ผ่านมา JKN มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกปี 2560 จำนวน 82.54 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2559 เนื่องจากบริษัทฯต้องแบกรับต้นทุนค่าลิขสิทธิ์และการบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญประกอบกับมีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งรูปแบบการเข้าถึงสื่อของประชาชนมีการปรับเปลี่ยนไปสู่เทรนดิจิตอลมากขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิมีการปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN มีทุนจดทะเบียน จำนวน 270 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วจำนวน 200 ล้านบาท  ขณะที่สัดส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยมี บล.เคที ซีมิโก้ เป็น ที่ปรึกษาทางการเงิน





กำลังโหลดความคิดเห็น