บอร์ด บมจ.เอแอลที เทเลคอม หรือ ALT ไฟเขียว ออกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ พร้อมเดินหน้าปรับกลยุทธ์ตามแนวทาง Smart city เน้นย้ำปี 60 เป็นปีแห่งการลงทุนสร้างฐานที่มั่นอันแข็งแกร่ง เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอแอลที เทเลคอม หรือ ALT ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2560 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 มีมติเห็นชอบการออกและจัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอแอลที เทเลคอม จํากัด (มหาชน) (ใบสําคัญแสดงสิทธิ ALT-W1) ในจํานวนไม่เกิน 250,000,000 หน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ในอัตราการจัดสรรที่ 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสําคัญแสดงสิทธิ ALT-W1 (กรณีมีเศษให้ปัดทิ้ง)
ทั้งนี้ ALT-W1 จะมีอายุ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสําคัญแสดงสิทธิ โดยอัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) 1 : 1 และราคาการใช้สิทธิซื้อหุ้นอยู่ที่ 3.00 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ (XW) ในวันที่ 12 ธ.ค. 2560 และกำหนดให้วันที่ 14 ธันวาคม 2560 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิ ALT-W1 (Record Date) นั่นคือ นักลงทุนที่สนใจอยากได้รับการจัดสรร ALT-W1 ต้องซื้อ หรือมีหุ้นของ ALT ไว้ภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2560
นอกจากนี้ จะเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากจํานวน 500,000,000 บาท เป็นจํานวน 625,000,000 บาท โดยการออกหุ้น จํานวน 250,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการแปลงสภาพใบสําคัญแสดงสิทธิในอนาคต ทั้งนี้ กำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
“การออกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 : 1 นั้น เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่มีความเชื่อมั่นในตัวบริษัทฯ และอยู่กับเรามานาน ประกอบกับการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีเงินทุนสำหรับลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในอนาคต อีกทั้ง ยังช่วยเสริมสภาพคล่องของบริษัท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ สร้างโอกาสการเติบโตที่ยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว” นางปรีญาภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ เราคาดว่า ทิศทางอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศจะเติบโตไปในแนวทางของ Smart City ตามนโยบาย Smart City และ Thailand 4.0 ของประเทศไทย บริษัทจึงมีปรับกลยุทธ์ และเตรียมพร้อมรับมือ โดยเน้นการลงทุนระยะยาวผ่านโครงการเพื่อให้เช่า อาทิ โครงการวางโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงตามแนวรถไฟ, โครงการวางโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูงในนิคมอุตสาหกรรม, โครงการนำสายสื่อสารลงสู่ใต้ดิน เป็นต้น ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว