หุ้นไทยปิดบวก 2.71 จุด ตอบรับสัญญาณดีจากเศรษฐกิจในประเทศ แถมได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุน LTF
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน (CNS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 ต.ค.) เป็นลักษณะแกว่ง Sideway up ตอบรับสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย GDP การเกษตรในปีนี้ ถ้ามองเฉพาะทิศทาง GDP ของภาคการเกษตร จะเห็นว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น เป็นตัวบ่งชี้ว่า สัญญาณการบริโภคกลุ่มฐานรากจะฟื้นตัวดีขึ้นตาม ทำให้มีแรงหนุนเชิงบวกเข้ามาต่อเนื่อง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เป็นลักษณะของการแกว่งตัวบวก-ลบสลับกัน ซึ่งปัจจัยหนุนเชิงบวกมาจากค่าเงินเอเชียโดยรวมในเชิงเปรียบเทียบแข็งค่าขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนลง เป็นผลจากเรื่องฉบับร่างนโยบายการปฏิรูปภาษีที่สหรัฐฯ เปิดเผยวานนี้ (30 ต.ค) ทำให้เห็นแรงขายทำกำไรในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมา อย่างไรก็ตาม มองว่าแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะกลาง-ยาว ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ผันผวนค่อนข้างมาก มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯ ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ยังดีเมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลงก็ยังมีแรงดีดตัวขึ้นมาได้ โดยมองว่าเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ยังช่วยประคองตลาดฯ ได้ ซึ่งภาพโดยรวมของตลาดฯ ยังไม่ได้แย่ เพียงแต่มี take profit ระหว่างทางหลังจากที่ขึ้นไปมากแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงบ่ายนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งดีกว่าช่วงเช้าที่จะติดลบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน ซึ่งต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. นี้ พร้อมให้จับตาใครจะมาเป็นประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบชัดในปลายสัปดาห์นี้
ส่วนบ้านเราก็คงจะมีการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ซึ่งหลายบริษัทต่างทยอยประกาศผลประกอบการออกมาในช่วงนี้ นอกจากนี้ ก็ให้ติดตามผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,721.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.16% มูลค่าการซื้อขาย 55,633.83 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะยังมีลักษณะ Sideway up เช่นเดียวกันกับวันนี้ ซึ่งจะมีการแกว่งตัวปรับฐานบ้างในระหว่างวัน แต่โดยรวมจะค่อย ๆ สร้างฐานขึ้นในแดนบวก
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตาม การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะประชุมในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. และทราบผลในวันที่ 2 พ.ย. นี้ รวมทั้งติดตามผลประกอบการไตรมาสที่ 3/60 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา