xs
xsm
sm
md
lg

สศค. เผยที่ประชุม รมว.คลัง APEC หนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน-พัฒนานโยบายภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สศค. เผยที่ประชุม รมว.คลัง APEC หนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน-พัฒนานโยบายภาษี และ กม. รับมือปัญหาเลี่ยงภาษี

นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปก (APEC Finance Ministers’ Meeting : APEC FMM) ครั้งที่ 24 ในระหว่างวันที่ 20-21 ตุลาคม 2560 ณ เมืองฮอยอัน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

สำหรับการประชุมในปีนี้มีแนวคิดหลัก (Theme) ของการประชุม คือ การเสริมสร้างพลวัตใหม่ และการสร้างอนาคตร่วมกัน (Creating New Dynamism, Fostering Shared Future) โดยมีการหารือที่สำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาค โดยที่ประชุมเห็นว่า เศรษฐกิจโลกในระยะสั้นมีแนวโน้มฟื้นตัวตามการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) และเขตเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว (Advanced Economies) อย่างไรก็ดี สำหรับระยะปานกลาง เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความท้าทายต่าง ๆ อาทิ ภาวะตลาดเงินที่ตึงตัวมากขึ้น การชะลอตัวในภาคการผลิต และความเสี่ยงจากประเด็นทางการเมือง (Geopolitical Risks) เป็นต้น

ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเปก ยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดย ADB และ APEC Policy Support Unit คาดว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปก ในปี 2560 จะขยายตัว 3.4-3.8% จากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 2.9% ตามการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยที่ประชุมสนับสนุนให้สมาชิกเอเปก จะต้องร่วมมือกันในการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง และทั่วถึงในภาคการคลัง การเงิน และการปฏิรูปโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในระยะปานกลาง

2. การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเซบู โดยที่ประชุมสนับสนุนให้สมาชิกเอเปก ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเซบู (Strategy of Implementation of Cebu Action Plan) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสมาชิกเอเปก สามารถเลือกดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ดังกล่าวได้ตามความสมัครใจ (Voluntary Basis) ให้เหมาะสมกับบริบทภายในของแต่ละเขตเศรษฐกิจ โดยไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย ทั้งนี้ ที่ประชุมขอให้องค์กรระหว่างประเทศและกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ภายใต้เอเปก (APEC sub-fora) ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเซบู ของสมาชิกเอเปก มีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์ยิ่งขึ้น

3. ในการประชุม APEC FMM ครั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือใน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย

3.1 การลงทุนระยะยาวในโครงสร้างพื้นฐาน (Long-term Investment in Infrastructure) เนื่องจากเห็นว่า การมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ และเพียงพอ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และเห็นว่า บทบาทของภาคเอกชนในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานผ่านการดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชน (Public Private Partnership : PPP) เป็นสิ่งจำเป็น จึงต้องมีการดำเนินการจัดสรรความเสี่ยงระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน ให้เหมาะสม มีการนำเครื่องมือในการลดความเสี่ยงมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ภาคเอกชนในการเข้าร่วมลงทุน นอกจากนี้ สมาชิกเอเปก ยินดีที่จะร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ในการศึกษาถึงแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อยกระดับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพในภูมิภาคเอเปก

3.2 การป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไรไปต่างประเทศ (Base Erosion and Profit Shifting : BEPS) โดยเห็นว่า การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายภาษี และการยกร่างกฎหมายเพื่อรับมือกับปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีระหว่างประเทศโดยเฉพาะ BEPS มีความจำเป็น นอกจากนี้ สมาชิกเอเปกยินดีที่จะร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับ Inclusive Framework ซึ่งเป็นกลไกในการนำมาตรฐานขั้นต่ำ (Minimum Standards) ของแผนปฏิบัติการภายใต้ BEPS มาประยุกต์ใช้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน และสมาชิกเอเปกจะผลักดันความร่วมมือในประเด็นนี้อย่างต่อเนื่องในปี 2561 พร้อมทั้งยินดีที่องค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ จะให้การสนับสนุนสมาชิกเอเปก ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ BEPS

3.3 การบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Financing and Insurance) โดยการพัฒนากรอบด้านกฎหมายและสถาบันเกี่ยวกับการประกันภัย มีความสำคัญต่อการดำเนินการ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และการจัดการกับภาระผูกพันของรัฐบาล (Contingent Liabilities) ที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงการจัดทำฐานข้อมูลความเสี่ยงทางภัยพิบัติ เพื่อที่จะได้ประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติในอนาคต และจัดเตรียมกลไกทางการเงิน เพื่อรองรับผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว พร้อมทั้งยินดีที่องค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และได้ร่วมกับสมาชิกเอเปก ศึกษาถึงแนวทางที่เหมาะสมเพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติ

3.4 การเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) โดยสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างสมาชิกเอเปก และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาการบริการทางการเงินอย่างยั่งยืน และทั่วถึงในภูมิภาค โดยเฉพาะการสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินในภาคเกษตรกรรม และชนบท อาทิ การสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเข้าถึงบริการทางการเงินของทั้งประชาชนและภาคธุรกิจ การพัฒนาระบบการชำระเงินดิจิทัล และการส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงิน เป็นต้น เพื่อยกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้

4. การประชุม ABAC’s Executive Dialogues with APEC Finance Ministers เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปก ผู้แทนระดับสูงจากสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (APEC Business Advisory Council : ABAC) และผู้บริหารจากภาคเอกชน เพื่อหารือในประเด็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งที่ประชุมสนับสนุนให้เพิ่มระดับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคเอเปก ผ่านการร่วมลงทุนของภาคเอกชน (PPP) พร้อมทั้งพัฒนากฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อรองรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำบทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) เพื่อให้การเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นไปอย่างทั่วถึง และมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

5. การประชุมทวิภาคี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีการหารือทวิภาคีกับนาย Paul Chan Mo-Po รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง นาย David R. Malpass ปลัดกระทรวงการคลังด้านกิจการระหว่างประเทศ (Under Secretary for International Affairs) ของสหรัฐอเมริกา และนาย Scott Morrison รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย โดยได้แลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจระหว่างกัน โดยส่วนใหญ่แสดงความชื่นชมและยินดีที่ประเทศไทยมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แจ้งว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงฟื้นตัวไม่เต็มที่ตามที่คาดหวัง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทั้งในด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับปรุงกฎระเบียบภายในประเทศ เพื่อยกระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่อไป

ทั้งนี้ การประชุม APEC FMM ครั้งที่ 25 จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2561 ณ ประเทศปาปัวนิวกินี
กำลังโหลดความคิดเห็น