ปีหน้าขึ้น ดบ.เงินกู้ซื้อบ้าน ธอส. รับปากตรึง 6 เดือนช่วยลูกค้า ส่งผลให้ตลอดครึ่งปีแรกของปี 2561 ลูกค้าที่กู้เงินกับ ธอส. จะไม่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มแน่นอน เนื่องจากธนาคารได้ปรับการบริหารต้นทุนเงินฝากรองรับภาระดอกเบี้ยในอนาคตไว้แล้ว
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงแนวโน้มดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในอนาคตว่า ถึงแม้โดยภาพรวม ดอกเบี้ยในช่วงปีหน้ามีโอกาสปรับขึ้นอีก ประมาณ 0.25% แต่ธนาคารยังยืนยันจะตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราเท่าเดิมต่อไปได้อย่างน้อย 6-8 เดือน ส่งผลให้ตลอดครึ่งปีแรกของปี 2561 ลูกค้าที่กู้เงินกับ ธอส. จะไม่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มแน่นอน เนื่องจากธนาคารได้ปรับการบริหารต้นทุนเงินฝากรองรับภาระดอกเบี้ยในอนาคตไว้แล้ว
“ปัจจัยที่ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นในปีหน้า มาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีท่าทีจะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก ซึ่งส่งให้ดอกเบี้ยของไทยอาจต้องปรับขึ้นตาม แต่เรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้นจริง ธอส. จะประชุมระหว่างผู้บริหารสภาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (สภาแบงก์รัฐ) ทั้ง 7 แห่ง เพื่อกำหนดทิศทางดอกเบี้ยร่วมกัน ซึ่งมองว่าแม้แนวโน้มดอกเบี้ยอาจจะขึ้น 0.25% แต่ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจะพยายามคงดอกเบี้ยให้นานที่สุด โดยเฉพาะในส่วน ธอส. มั่นใจว่า ด้วยการวางแผนบริหารต้นทุนในปัจจุบัน จะคงดอกเบี้ยเงินกู้ระดับนี้ต่อไปได้อีก 6-8 เดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าเงินกู้ของธนาคารที่มีอยู่ 1.5 ล้านบัญชี”
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของ ธอส. ในปัจจุบันมีดังนี้ ดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ หรือลูกค้ารายย่อยชั้นดี อยู่ที่ 6.75% ต่อปี, เอ็มแอลอาร์ หรือลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา 6.25% ต่อปี, เอ็มโออาร์หรือลูกค้ารายย่อยชั้นดี 7% ต่อปี โดยเป็นการปรับลดลงมาจากเดือนพฤษภาคม 2560
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วนของสถานการณ์เงินฝากของ ธอส. ปัจจุบันมีเงินฝากรวม 8.62 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากปีก่อน และมีต้นทุนเงินฝากลดลงจาก 2.4% เหลือ 2.1% ซึ่งเพียงพอรองรับการปล่อยกู้ในอนาคตได้ สำหรับการระดมเงินฝากในปีหน้า นอกจากจะมีการออกโครงการเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้ารายย่อยเหมือนเดิมแล้ว ขณะเดียวกัน จะประเดิมออกสลากออมทรัพย์ ธอส. มาจำหน่ายให้ประชาชนเป็นครั้งแรกด้วย โดยคาดว่าในปีหน้าจะระดมทุนประมาณ 2-3 ครั้ง รวมวงเงินทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท
“ขั้นตอนการออกสลากออมทรัพย์ ธอส. ตอนนี้อยู่ระหว่างรอพิจารณาร่างปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ธอส. ให้เสร็จก่อน ซึ่งกำลังพิจารณาในขั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา และส่งกลับให้ธนาคารกับกระทรวงการคลังตรวจร่างกฎหมาย เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งน่าจะเสร็จ และมีผลบังคับในไตรมาส 2 ปีหน้า ส่วนรางวัลสำหรับสลากฯ ธอส. อาจมีทั้งเงินสด สิทธิการกู้บ้านดอกเบี้ยต่ำ บ้าน คอนโดฯ ใหม่ หรือที่อยู่อาศัยมือสอง ที่มาจากสินทรัพย์รอการขายของธนาคาร หรือเอ็นพีเอ ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบรางวัลให้มีความน่าสนใจ”
ขณะที่การปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารปีนี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.78 แสนล้านบาท หลังจากปัจจุบันปล่อยกู้ได้แล้ว 1.26 แสนล้านบาท โดยภายในเดือนตุลาคมนี้ จะปล่อยกู้ได้เพิ่มอีก 7,000 ล้านบาท และเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ปล่อยกู้ได้อีก 50,000 ล้านบาท ส่งผลยอดสินเชื่อคงค้างของ ธอส. พุ่งทะลุ 1 ล้านล้านบาทได้เป็นครั้งแรก ส่วนสินทรัพย์รวมปัจจุบันอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.43% และมีกำไรสุทธิ 9,048 ล้านบาท