ธนชาต เผยกำไรไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.5 พันล้าน เพิ่มขึ้น 6% จากการขยายตัวของสินเชื่อ และการบริหารจัดการต้นทุน ขณะที่เอ็นพีแอล ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.11%
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ปี 2560 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,533 ล้านบาท เติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 11 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.06% จากไตรมาสก่อนหน้า และปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.34% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2560 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อในงวด 9 เดือน เติบโต 1.13% ซึ่งดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงมาเหลือเพียง 2.11% และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารอยู่ในระดับสูงถึง 20.01%
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรอง (PPOP) ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 13.44% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากฐานรายได้รวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานปรับตัวลดลง
“นโยบายและกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของธนาคารธนชาต ที่เราจะทำอย่างต่อเนื่องต่อไป คือ การเป็นธนาคารหลักของลูกค้า (Main Bank) เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการทางการเงินที่หลากหลายครบวงจร (Total Financial Solution) และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผ่านการให้บริการ ทั้งในรูปแบบเดิม และการเป็นดิจิทัลแบงกิ้ง โดยมีนวัตกรรมล่าสุด คือ QR Code ช่องทางการชำระเงินรูปแบบใหม่ เพื่อขานรับนโยบาย National e-payment ของรัฐบาล และตอบโจทย์การทำธุรกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัล