บล. โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากสหรัฐฯ เตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ ให้กรอบการลงทุนที่ 1,700-1,740 จุด แนะสะสมหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ที่คาดการณ์ว่า กำไรไตรมาส 3/2560 เติบโตจากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 3 กลุ่มเดินเรือ ที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี และกลุ่มค้าปลีก ที่คาดว่า ยอดขายต่อสาขาจะกลับมาเติบโตในไตรมาส 3/2560 จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ด้านแนวโน้มราคาทองคำ แนะจับจังหวะ trading ในช่วงระหว่างกรอบรับหลักที่ 1,240-1,260 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหากราคายืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ
น.ส. วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากสหรัฐฯ เตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ ประกอบกับ Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ FETCO รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธ.ค. 60) ปรับเพิ่มขึ้น 31% อยู่ในภาวะร้อนแรงอย่างมาก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ดัชนีในเดือน ม.ค. 58 จาก fund flow ไหลเข้าจากต่างประเทศ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย รวมถึงภายในเดือน ต.ค. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยใหม่ คาดจีพีดีขยายตัวใกล้ 4% เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก Bloomberg คาดเฟดมีโอกาส 80% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ 1.5% ในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ หากอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลง ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น แตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% โดยดัชนี CPI ในเดือน ก.ย. พุ่งขึ้น 2.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี วันที่19 ต.ค. จีนเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และภายใน 20 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคาร ทยอยส่งงบการไตรมาส 3/2560 คาดธนาคารขนาดใหญ่ผลประกอบการเติบโตเล็กน้อย เทียบระหว่างไตรมาส เพราะถูก NPL กดดัน
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากแรงซื้อดักผลประกอบการ Q3/2560 ที่กำลังจะทยอยประกาศตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิคเกิดสัญญาณ Bearish Divergence คอยกดดันดัชนี ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,700-1,740 จุด
ทั้งนี้ แนะนำกลุ่มโรงกลั่น ที่คาดการณ์ว่า กำไรในไตรมาส 3/2560 เติบโตจากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 3 กลุ่มเดินเรือ ที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี และกลุ่มค้าปลีก ที่คาดว่า ยอดขายต่อสาขาจะกลับมาเติบโตในไตรมาส 3/2560 จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ระดับราคาทองคำอ่อนตัวกลับลงมาอยู่ใต้ระดับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งมีความเห็นจากประธาน Fed และกรรมการ FOMC บางคนที่บ่งชี้ถึงโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป โดยเดินหน้าโครงการลดงบดุลควบคู่ไปด้วย จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างฐานรับรอเข้าสู่ขารีบาวนด์ และราคาทองคำปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ผลจากการรุกเข้ายึดเมืองในเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดในอิรัก และการทลายฐานที่มั่นของ IS ในซีเรีย กับฟิลิปปินส์ อาจเกิดภาวะเสี่ยงต่อสงครามขึ้นในตะวันออกกลางหากมีการเข้าแทรกแซงจากชาติมหาอำนาจ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น และเป็นโอกาสให้ราคาทองคำยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำให้ผู้ลงทุนจับจังหวะ trading ในช่วงระหว่างกรอบรับหลักที่ 1,240-1,260 ดอลลาร์สหรัฐฯ กับแนวต้านจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหากราคายืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างมั่นคง จึงเน้นเปิด long เป็นสถานะหลัก