xs
xsm
sm
md
lg

“ฟลอยด์” เคาะไอพีโอ 2.80 บาทต่อหุ้น ระดมทุน 252 ล้านบาท เปิดจองซื้อ 18-20 ต.ค. เทรด 1 พ.ย. นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD
บมจ. ฟลอยด์ หรือ FLOYD กำหนดราคา IPO ที่ 2.80 บาทต่อหุ้น ระดมทุนกว่า 252 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ และลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานและศูนย์อบรม กรรมการผู้จัดการ ลั่นศักยภาพบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง บวกทีมงานที่มีคุณภาพและประสบการณ์สูงด้านธุรกิจรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล และงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภคประกอบอาคาร เชื่อไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง

นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ FLOYD จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่าย 76.50 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 12.73 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อพนักงานของบริษัท 0.77 ล้านหุ้น กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2560 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) และบริษัท หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “FLOYD”

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 2.80 บาทต่อหุ้นนั้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับผลประกอบการ และปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยบริษัทมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 13.33 เท่า เมื่อคำนวณจากผลประกอบการรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของหมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วง 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2560 ถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2560 มีค่าเท่ากับ 30.55 เท่า ทั้งนี้ คาดว่า FLOYD จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เสนอขายมีจำนวนเพียง 90 ล้านหุ้น

“สำหรับปัจจัยด้านภาวะตลาดหุ้นขณะนี้ถือว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์สามารถยืนเหนือ 1,700 จุดได้ต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อ Sentiment การลงทุน ประกอบกับผลประกอบการของ FLOYD เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2557-2559 มีรายได้รวม 432.53 ล้านบาท 463.03 ล้านบาท และ 545.44 ล้านบาท ตามลำดับ ในส่วนของกำไรสุทธิมีเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2557-2559 อยู่ที่ 35.41 ล้านบาท 66.21 ล้านบาท และ 115.89 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนของปี 2560 อาจชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากลูกค้าบางส่วนมีการชะลอแผนงาน โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 123.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12.48 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ลูกค้าบางส่วนได้เริ่มงานตามแผนงานก่อสร้างที่วางไว้ ประกอบกับการขยายงานไปยังฐานลูกค้ารายใหม่ จึงคาดว่า FLOYD จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทจดทะเบียนที่น่าจับตามอง และมั่นใจว่าทิศทางหุ้น IPO ของ FLOYD จะได้รับความสนใจจองซื้อเต็มจำนวนจากนักลงทุน” นายชนะชัย กล่าว

ขณะที่นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้า และเครื่องกล เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนขยายกิจการ เพื่อรองรับการเติบโตของกิจการ ขณะที่เงินทุนอีกส่วนหนึ่งจะใช้ในการลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงาน และศูนย์อบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถของพนักงานในการให้บริการเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ทั้งต่อสถาบันการเงิน คู่ค้าธุรกิจ รวมทั้งลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายงานเพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ในอนาคต

“FLOYD กำหนดราคาเสนอขายที่ 2.80 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งนักลงทุนจะได้มีส่วนลงทุนในบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการเติบโตทาง จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโต และเพิ่มความสามารถของพนักงานในการให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้เชื่อว่า FLOYD จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี และถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้น Growth Stock ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทฯ พร้อมทั้งเน้นการถือลงทุนระยะยาว” นายทศพร กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 180 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มเมืองเกษม ถือหุ้นร้อยละ 18.75 กลุ่มจิตตวีระ ร้อยละ 18.75 กลุ่มเลิศศุภกุล ร้อยละ 18.75 และกลุ่มทัศนสุกาญจน์ ถือหุ้น 18.75 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น