“หลักทรัพย์บัวหลวง” เผยหุ้นไทยทำนิวไฮในรอบ 23 ปี ดึงนักลงทุนเทรด Call DW สูงสุดในรอบ 13 เดือน พร้อมแนะเทรด DW ตามแนวโน้มหลักไม่สวนเทรนด์ “บรรณรงค์” ย้ำบัวหลวงยังครองแชมป์มาร์เกตแชร์อันดับหนึ่ง 35.7%
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออก DW ที่มีปริมาณการซื้อขายในระบบสุงสุดเป็นอันดับ 1 เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 23 ปี โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,673.16 จุด ส่งผลให้ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants : DW) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก โดยจะเห็นได้จากสัดส่วนของปริมาณการซื้อขาย Call DW ต่อปริมาณการซื้อขาย DW ทั้งหมดอยู่ที่ 79.3% สูงสุดในรอบ 13 เดือน และสัดส่วนของปริมาณการซื้อขาย DW ต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งตลาดอยู่ที่ 4.5% สูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่เพียง 3.5% ส่วน DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 Index โดยมีสัดส่วนการซื้อขายสูง 45.7% ของการซื้อขายทั้งหมด หลังนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนใน DW ประเภท Call จำนวนมาก ภายหลังดัชนีปรับตัวขึ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง หลังนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
นอกจากนั้น นักลงทุนยังให้ความสนใจเข้าเก็งกำไร DW ประเภท Call บนหุ้นรายตัวมากขึ้น นำทีมโดย DW อ้างอิงหุ้น AOT ที่มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 3.2% และ DW อ้างอิงหุ้น CBG ที่มีสัดส่วนการซื้อขาย 2.3%
หลักทรัพย์บัวหลวง ยังคงเป็นผู้ออกที่มีจำนวน DW สูงสุดในระบบ คิดเป็น 16.05% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมด และมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือก 79.79% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาด รวมทั้งมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือนกันยายนเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 35.7%
นายบรรณรงค์ กล่าวต่อว่า ในช่วงตลาดขาขึ้น นักลงทุนควรเน้นการเทรด Call DW เป็นหลัก โดยเลือกหุ้นอ้างอิงที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือเป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบัน และต่างชาติ เพราะจะทำให้ราคาหุ้นอ้างอิงสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นักลงทุนควร “หลีกเลี่ยงลงทุน” ใน Put DW ที่มีราคาต่ำ เช่น 10 สตางค์ เนื่องจาก DW ประเภทนี้มักจะมีค่าเสื่อมเวลาสูง เช่น 2-10% ต่อวัน และมีการเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างช้า เช่น หุ้นอ้างอิงต้องขยับ 3-5 ช่อง DW ถึงจะขยับ 1 ช่อง ดังนั้น นักลงทุนจะสามารถทำกำไรได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน
“นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพราะจะช่วยให้การลงทุนใน DW ปลอดภัยมากขึ้น ที่สำคัญ ต้องมีวินัยในการลงทุน ด้วยการตั้งจุดทำกำไรเมื่อราคาหุ้นอ้างอิงวิ่งไปถึงเป้าหมาย และตัดขาดทุน เมื่อราคาหุ้นอ้างอิงไม่เป็นไปตามคาด และหากนักลงทุนต้องการตัวช่วยการลงทุน DW หลักทรัพย์บัวหลวงขอแนะนำ Bualuang iAlgo” นายบรรณรงค์ กล่าว
หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย โดยในวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการออกและเสนอขาย DW จำนวนทั้งสิ้น 33 รุ่นครอบคลุม 17 หลักทรัพย์อ้างอิงได้แก่ ADVANC, AOT, AP, BLAND, CK, CPF, DTAC, GPSC, INTUCH, ITD, KKP, PTTEP, SET50, STEC, TISCO, TRUE UNIQ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.blswarrant.com