บมจ. วินเทจ วิศวกรรม เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เมืองมินบู ประเทศพม่า กำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ เฟสแรก 50 เมกะวัตต์ เสร็จกลางปี 61 ก่อนเดินหน้าเฟส 2 ต่อทันที
นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ ณ เมืองมินบู ประเทศพม่า ว่าโครงการดังกล่าวแบ่งระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างเป็น 4 เฟส โดย 3 เฟสแรก มีขนาด 50 เมกะวัตต์ และเฟสสุดท้ายมีขนาด 70 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาลงนามรับซื้อไฟฟ้าไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2559 มีบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GEP ทำหน้าที่ในการดูแลและพัฒนาโครงการ ต่อมา ได้รับการอนุมัติจาก MIC (Myanmar Investment Commission) เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2560 และได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าอุปกรณ์เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เริ่มจัดส่งแผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ไปทางเรือ ซึ่งจะขนส่งถึงท่าเรือย่างกุ้ง ในประเทศพม่า ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ และจะสามารถจัดส่งของไปยังพื้นที่ตั้งโครงการได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก ขณะที่ผู้รับเหมาในประเทศพม่า ก็เริ่มดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าเฟสแรกแล้ว โดยวางสายไฟขนาด 230 kV เสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งเข้า/ออก รวมระยะทาง 1.3 ไมล์ พร้อมที่จะเชื่อมต่อและจ่ายไฟ และได้มีการติดตั้งสายไฟเชื่อมต่อกับหม้อแปลงไฟฟ้า สามารถผลิตไฟฟ้าเพียงพอสำหรับงานก่อสร้าง และการใช้งานภายในได้
สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ได้ทำการเคลียร์พื้นที่ในส่วนของเฟสแรก และทางเข้าโครงการฝั่งถนนมินบู-อัน ด้วยการตัดต้นไม้ และเกลี่ยหน้าดิน เพื่อปรับทัศนียภาพ รวมถึงปรับระดับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับโครงการ และพื้นที่สำหรับออฟฟิศ นอกจากนี้ ยังได้ทำการติดตั้งท่อและระบบน้ำภายในบริเวณโรงไฟฟ้า รวมถึงติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, ถังเก็บน้ำบนดิน และเครื่องสูบเสร็จสมบูรณ์แล้ว
“ภาพรวมแล้วพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าเฟสแรกได้รับการจัดเตรียมความพร้อมเพื่อการดำเนินการก่อสร้างที่ราบรื่น และยังไม่พบปัญหาใด ๆ ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าการก่อสร้างเฟสแรกจะดำเนินการแล้วเสร็จและ COD ได้ภายในช่วงกลางปี 2561 จากนั้น จะเดินหน้าลุยงานในเฟส 2 ต่อทันที”
ส่วนความคืบหน้าแผนการการเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่ได้กำหนดระยะเวลาการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนสำหรับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights offering) ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน 2560 และระหว่างวันที่ 2-3 ตุลาคม 2560 ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเข้ามา มีจำนวนทั้งสิ้น 87,109,580 หุ้นในราคาเสนอขายหุ้นละ 2 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 174,219,160.00 บาท และส่งผลให้บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวน 972,136,378.00 บาท ซึ่งหุ้นเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าวจะเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป