บอร์ด ซุปเปอร์บล๊อก ไฟเขียว ตั้ง 6 บริษัทย่อยในเวียดนาม ลุยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเต็มพิกัด คาดผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 18-22% ตั้งเป้าระยะยาว 3 ปีข้างหน้า เป็นผู้นำพลังงานทดแทนในเอเชีย ดันผลงานโตก้าวกระโดด
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) ดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านการปฏิบัติการดูแลบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ประกอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานขยะ และพลังงานลม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศเวียดนาม จำนวน 6 บริษัท เพื่อดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศเวียดนาม
สำหรับโครงสร้างบริษัทในเบื้องต้นจะมีบริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SUPER WIND) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้น 100% และหรือบริษัทในกลุ่ม SUPER ถือหุ้น 51% ของทุนจดทะเบียน และบริษัทผู้ร่วมทุนในประเทศเวียดนาม ถือหุ้น 49% ของทุนจดทะเบียน ส่วนโครงสร้างกรรมการ ประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด และหรือบริษัทในกลุ่ม SUPER จำนวน 2 คนและตัวแทนจาก และ/หรือบริษัทในกลุ่ม SUPER 1 คน
“การประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยถึง 6 บริษัทในประเทศเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงการมุ่งมั่นขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ ของ SUPER เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ ทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคง อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ยังให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในส่วนของทุน (EIRR) สูงถึง 18-22% เมื่อเทียบกับการลงทุนในธุรกิจพลังงานที่ประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานขยะ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน” นายจอมทรัพย์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ SUPER ได้ประกาศการความร่วมมือ (MOA) กับพันธมิตรโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ร่วมกับพันธมิตรในเวียดนาม โดยเฟสแรกกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างได้ภายในปี 2560 และเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบในไตรมาส 1/2562
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน เพื่อเพิ่มแห่งที่มาของรายได้และกำไร ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศยังเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญใน 2-3 ปีข้างหน้าแน่นอน และหนึ่งในนั้น มาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีน ที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด และตั้งเป้าภายใน 3 ปีข้างหน้า ก้าวสู่ความเป็นผู้นำพลังงานทดแทนในเอเชีย