xs
xsm
sm
md
lg

ชูระบบ “เหยื่อล่อ” ทางเลือกกำจัดปลวกแก้ปัญหาโลกแตก..! ปลวกทำลายบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชัชวาลย์ มงคลครุฑ
“เพสท์เซอร์วิส โซลูชั่นส์” ผู้นำเข้าระบบกำจัดปลวก “เหยื่อล่อ เนเมซิต” เผยมูลค่าตลาดรวมธุรกิจกำจัดปลวก 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี ระบุผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่า 70-80% ยังใช้ระบบสารเคมีที่มีความเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แถมเป็นแค่ระบบชะลอ หรือยับยั้งปลวกทำลายที่อยู่อาศัยเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ ชูระบบเหยื่อล่อ “เนเมซิต” จากออสเตรเลีย ปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำจัดปลวกได้ผลจริง 100% ทางเลือกใหม่ แจงระบบเหยื่อล่อเทคโนโลยีใหม่เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น หลังผู้ใช้เห็นผลบอกต่อ พร้อมเร่งทำตลาดออนไลน์เจาะกลุ่มบริษัทกำจัดปลวก เน้นให้ความวิชาการ กลุ่มผู้บริโภคสร้างการยอมรับในผลิตภัณฑ์ แจงยอดขายต่อปี 15-20 ล้านบาทต่อปี

นายชัชวาลย์ มงคลครุฑ ผู้จัดการ บริษั้ท เพสท์เซอร์วิส โซลูชั่นส์ จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก ระบบ เหยื่อล่อ เนเมซิส จากประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดกำจัดปลวกมีมูลค่าโดยรวมประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี โดยลักษณ์ของตลาดกำจัดปลวกแบ่งออกเป็น 2 ลักษณ์ คือ การกำจัดปลวกในที่อยู่อาศัยซึ่งแชร์ตลาดรวมอยู่ 70-80% และการกำจัดปลวกในโรงงานอุตสาหกรรม และโรงแรม แชร์ตลาดอยู่ 20-30% โดยในจำนวนนี้ผู้ให้บริการกว่า 70% ยังคงให้บริการกำจัดปลวกด้วยระบบสาเคมี มีเพียง 30% เท่านั้นที่ให้บริการด้วยระบบเหยื่อล่อ

“ปัจจุบัน ในประเทศไทยมีการรวมตัวของบริษัทกำจัดแมลงก่อตั้งสมาคมกำจัดแมลง 4 สมาคม ตั้งอยู่ใน กทม. 3 สมาคม และอีก 1 สมาคมอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมทั้ง 4 ระบุว่า ในประเทศไทยมีบริษัทกำจัดแมลงที่เปิดให้บริการประมาณ 1,000-1,200 บริษัท โดยในจำนวนนี้มีประมาณ 500 บริษัทที่จดทะเบียนพัฒนาธุรกิจการค้า และในกลุ่มที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องนี้มียอดขายรวมต่อปีที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท”

ทั้งนี้ แม้ว่าระบบกำจัดปลวกแบบเหยื่อล่อ จะเป็นระบบที่กำจัดปลวกได้ผล 100% แต่ก็ยังไม่ได้รับการความนิยมแพร่หลายเท่ากับระบบกำจัดปลวกด้วยสารเคมี เนื่องจากระบบเหยื่อล่อเป็นระบบใหม่ที่เริ่มต้นเข้ามาทำตลาดช้ากว่าระบบสารเคมี และการกำจัดปลวกนั้น เกือบ 100% เป็นการดำเนินการโดยผู้ให้บริการ ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้สัมผัสให้ใช้ด้วยตัวเอง จึงไม่ได้รับความนิยมเท่ากับระบบสารเคมี ขณะที่ผู้ให้บริการที่ใช้ระบบสารเคมีในการกำจัดปลวก ไม่ค่อยเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และมีความเคยชินกับรูปแบบการดำเนินการเก่า ๆ ทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมได้ยาก

“นอกจากปัญหาการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของผู้ให้บริการายเดิมแล้ว ปัญหาเรื่องราคาหรืองบประมาณของระบบเหยื่อล่อในอดีตก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ที่ทำให้การแพร่หลายของระบบเหยื่อล่อไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นระบบที่ใช้ได้ผล 100% โดยในอดีตนั้น ระบบกำจัดปลวกแบบใช้สารเคมีจะมีค่าบริการลูกค้าต่อครั้งประมาณ 6,000 บาท ขณะที่ระบบเหยื่อล่อมีค่าให้บริการสูงถึง 60,000 บาท”

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ระบบเหยื่อล่อเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และมีการแพร่หลายในประเทศ ทำให้มีการนำเข้าเหยื่อล่อ เนเมซิต มาจากต่างประเทศ มีหลากหลายมากขึ้น เช่น การนำเข้าจากประเทศ ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, มาเลเซีย และออสเตรเลียเหยื่อล่อจึงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า สำหรับระบบกำจัดปลวกแบบเหยื่อล่อแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ส่วนของการกำจัด 2. ส่วนของการป้องกัน ซึ่งหากผู้บริโภคต้องการให้บ้านปลอดจากปลวกจำเป็นต้องใช้ทั้ง 2 ส่วนควบคู่กันไป แต่ส่วนมาก ผู้บริโภคจะใช้บริการกำจัดปลวกก็ต่อเมืองมีปลวกขึ้นบ้านแล้ว และโดยมากจะใช้เฉพาะบริการกำจัดปลวก แต่ไม่ใช้ระบบป้องกัน เมื่อปลวกหมดไปก็จะเลิกใช้บริการ ทำให้มีโอกาสที่ปลวกจะกลับมาได้อยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีการนำเข้าระบบกำจัดปลวกแบบเหยื่อล่อ เนเมซิต เข้ามาทำตลาด 5-6 แบรนด์ ซึ่ง โดยบริษัทเลือกที่จะนำเข้าระบบเหยื่อล่อแบบเนเมซิต จากประเทศออสสเตรเลีย เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ สภาพวะแวดล้อมของออสเตรเลีย ที่มีความใกล้เคียงกับประเทศไทย ทำให้ระบบเนเมซิตจากออสเตรเลียเหมาะกับประเทศไทยมากกว่าระบบเนเมซิตที่นำเข้าจากประเทศอื่น ๆ

สำหรับการทำตลาดและขยายฐานลูกค้าของบริษัทนั้น จะเน้นการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ และขายตรงสู่กลุ่มลูกค้าบริษัทกำจัดปลวก ส่วกลยุทธ์การขยายตลาด จะยังเน้นการทำตลาด โดยการให้ความรู้เชิงวิชาการผ่านการทดสอบระบบและวิธีการกำจัดปลวกเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมประมาณ 15-20 ล้านบาท เติบโตสอดคล้องกับตลาดรวม ซึ่งมีอัตราการขยายตัว 10% ต่อปี

 
กำลังโหลดความคิดเห็น