กระแสเงินทุนที่ไหลเข้า-ออกกองทุน ETFs ทองคำทั่วโลกถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนควรติดตามอยู่เสมอ เพราะนอกจากจะเป็นส่วนสำคัญในตลาดทองคำที่อาจส่งผลในเชิงจิตวิทยาต่อการลงทุนทองคำแล้วนั้น ยังจะทำให้นักลงทุนได้เห็นมุมมองของนักลงทุนรายใหญ่ที่มีต่อตลาดทองคำ เนื่องจากนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ในต่างประเทศมักจะใช้กองทุน ETFs ทองคำเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการบริหารพอร์ตการลงทุน
ต้องเรียนให้ทราบว่า กองทุน ETFs ทองคำทั่วโลกแท้จริงแล้วมีมากมายหลายกอง และเราสามารถแบ่งกลุ่มของ ETFs ทองคำได้ตามสัญชาติที่ทำการจดทะเบียนโดยแบ่งเป็น
(1.) กองทุน ETFs ทองคำสัญชาติอเมริกาเหนือ
(2.) กองทุน ETFs ทองคำสัญชาติยุโรป
และ (3.) กองทุน ETFs ทองคำสัญชาติเอเชีย ซึ่งล่าสุด World Gold Council ได้ออกรายงานที่ระบุว่า “ในเดือนกันยายนกองทุน ETFs ทองคำทั่วโลกถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 22.4 ตันสู่ระดับ 2,357 ตัน”
กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETFs ทองคำในเดือนกันยายนมาจากกองทุน ETFs ทองคำสัญชาติอเมริกาเหนือ ที่มีกระแสเงินทุนไหลเข้าในเดือนกันยายน จำนวน 36 ตันนำโดย SPDR Gold Shares ที่ถือครองทองคำเพิ่ม จำนวน 28 ตัน ตามมาด้วย iShares Gold Trust 8.5 ตัน
ในขณะที่เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากกองทุน ETFs ทองคำสัญชาติยุโรป จำนวน 12 ตันนำโดย db Physical Euro Hedged ETC ซึ่งจดทะเบียนในเยอรมนีที่ลดการถือครองทองคำลง 8.8 ตัน ด้าน Gold Bullion Securities ที่จดทะเบียนในลอนดอนลดการถือครองทองคำลง 8 ตัน ส่วน iShares Physical Gold ที่จดทะเบียนในลอนดอนเช่นกัน สำหรับกองทุน ETFs ทองคำสัญชาติเอเชียมีกระแสเงินทุนไหลออกเช่นกันราว 1.7 ตัน
นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุน ETFs ทั่วโลกถือครองทองคำเพิ่ม 191.9 ตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 9.78 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.7% จากสิ้นปี 2016
ถึงแม้ปีนี้กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETFs ทองคำจะลดลงจากปี 2016 แต่ก็ถือว่ากองทุน ETFs ทองคำยังคงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ในต่างประเทศให้ความสนใจ และยังเกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ดังนั้น หากยังเกิดกระแสเงินทุนไหลเข้า ETFs ทองคำต่อเนื่องอาจเป็นปัจจัยที่สร้างเสถียรภาพให้แก่ราคาทองคำ ในทางกลับกัน หากเกิดกระแสเงินทุนไหลออกใน ETFs ทองคำก็อาจกลายเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำได้เช่นกัน
ต้องเรียนให้ทราบว่า กองทุน ETFs ทองคำทั่วโลกแท้จริงแล้วมีมากมายหลายกอง และเราสามารถแบ่งกลุ่มของ ETFs ทองคำได้ตามสัญชาติที่ทำการจดทะเบียนโดยแบ่งเป็น
(1.) กองทุน ETFs ทองคำสัญชาติอเมริกาเหนือ
(2.) กองทุน ETFs ทองคำสัญชาติยุโรป
และ (3.) กองทุน ETFs ทองคำสัญชาติเอเชีย ซึ่งล่าสุด World Gold Council ได้ออกรายงานที่ระบุว่า “ในเดือนกันยายนกองทุน ETFs ทองคำทั่วโลกถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 22.4 ตันสู่ระดับ 2,357 ตัน”
กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETFs ทองคำในเดือนกันยายนมาจากกองทุน ETFs ทองคำสัญชาติอเมริกาเหนือ ที่มีกระแสเงินทุนไหลเข้าในเดือนกันยายน จำนวน 36 ตันนำโดย SPDR Gold Shares ที่ถือครองทองคำเพิ่ม จำนวน 28 ตัน ตามมาด้วย iShares Gold Trust 8.5 ตัน
ในขณะที่เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากกองทุน ETFs ทองคำสัญชาติยุโรป จำนวน 12 ตันนำโดย db Physical Euro Hedged ETC ซึ่งจดทะเบียนในเยอรมนีที่ลดการถือครองทองคำลง 8.8 ตัน ด้าน Gold Bullion Securities ที่จดทะเบียนในลอนดอนลดการถือครองทองคำลง 8 ตัน ส่วน iShares Physical Gold ที่จดทะเบียนในลอนดอนเช่นกัน สำหรับกองทุน ETFs ทองคำสัญชาติเอเชียมีกระแสเงินทุนไหลออกเช่นกันราว 1.7 ตัน
นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุน ETFs ทั่วโลกถือครองทองคำเพิ่ม 191.9 ตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 9.78 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.7% จากสิ้นปี 2016
ถึงแม้ปีนี้กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETFs ทองคำจะลดลงจากปี 2016 แต่ก็ถือว่ากองทุน ETFs ทองคำยังคงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ในต่างประเทศให้ความสนใจ และยังเกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ดังนั้น หากยังเกิดกระแสเงินทุนไหลเข้า ETFs ทองคำต่อเนื่องอาจเป็นปัจจัยที่สร้างเสถียรภาพให้แก่ราคาทองคำ ในทางกลับกัน หากเกิดกระแสเงินทุนไหลออกใน ETFs ทองคำก็อาจกลายเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำได้เช่นกัน
