“Happy Franchise” เสริมเขี้ยวเล็บให้ผู้ประกอบการ พร้อมรองรับตลาด EEC ตั้งเป้าปีหน้ายอดขายเพิ่มเป็น 2 เท่า ลุยดันบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 61
นายเฉลิม ทองสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสุข เรียลเอสเตท จำกัด ผู้ผลิตและดำเนินงานธุรกิจสร้างบ้านสำเร็จรูป, สำนักงาน, โกดัง, โรงงานสำเร็จรูป, อพาร์ตเมนต์สำเร็จรูป อย่างครบวงจรรายแรกของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท มีสุข เรียลเอสเตท เริ่มต้นดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และเล็งเห็นว่า การที่จะสร้างบ้านให้เสร็จหนึ่งหลังต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง เพราะการสร้างบ้านหนึ่งหลังนั้น จำนวนชิ้นส่วนมีไม่ต่ำกว่า 300 รายการ ปัจจุบัน บริษัทมีสุข เรียลเอทสเตท ได้ขยายไลน์ธุรกิจใหม่ไปสู่การทำธุรกิจแฟรนไชส์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Happy Franchise” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของการทำธุรกิจแฟรนไชส์ รูปแบบการลงทุนเพียงมีเงิน 30,000 บาท ก็สามารถขายสินค้าได้ โดยไม่ต้องลงไปผลิตเอง ไม่ต้องสต๊อกสินค้า เพียงแค่ขายอย่างเดียวก็สามารถสร้างกำไรได้สูงสุด 14-15% และสาเหตุที่บริษัทแบ่งปันผลกำไรให้เยอะนั้น เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ผลิตเอง นำเข้าเอง อัตราการบวกกำไรหลายทอดจึงไม่มี
“คำนิยาม Happy Franchise คือ อุตสาหกรรมก่อสร้าง หลักในการดำเนินธุรกิจ คือ 1. ผลิตภัณฑ์ดี 2. ระบบดี (ทำงานเป็นทีม) 3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี (ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริการ การให้ ยอมรับ แบ่งปัน ) โดยในปี 61 เรากำลังจะเดินเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ จึงอยากให้ธุรกิจการก่อสร้างเป็นนวัตกรรมก่อสร้างที่ส่งได้ทั่วโลก พร้อมตั้งเป้าในปีหน้าจะต้องมียอดขาย 2 เท่า” นายเฉลิม ระบุ
นายเฉลิม กล่าวด้วยว่า Happy Franchise ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีรูปแบบใหม่ที่ตนกำหนดขึ้นมาเอง ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เจอคู่แข่ง เพราะตนมองว่า กว่าคนอื่นจะทำแบบนี้ได้ก็ต้องใช้เวลานาน ขณะที่ตัวแทนจำหน่าย ลูกค้า หรือตนเองก็ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย เพราะเราให้เขาในฐานะผู้ประกอบการ โดยที่เขาใช้เงินทุน หรือทรัพยากรของเรา เมื่อไหร่ที่เขาเข็งแรง Happy Franchise ก็แข็งแรง คุณทำคุณได้อย่างไม่จำกัด และประการสำคัญ องค์กรของเราได้วางเรื่องวัฒนธรรมองค์กรไว้ข้อหนึ่งว่า คุณต้องเป็นคนดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนย้ำมาตลอด พร้อมกันนี้ Happy Franchise ได้ขานรับนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล บนกลไกการทำงานที่ถูกต้อง บนหลักธรรมาภิบาลขององค์กร ซึ่งปัจจุบัน Happy Franchise เติบโตไปมาก และเรากำลังจะทำ Happy Residence และ Happy Real Estate อีกด้วย
ด้านนายธีรพันธ์ จิรัญธรชัยสถิต ตัวแทนจำหน่ายระดับ Director มองว่า จุดเด่นของ Happy Franchise คือ นวัตกรรมการสร้างบ้านสำเร็จรูปที่สร้างจากพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งตนในฐานะวิศวกรประทับใจกับระบบงานของ Happy Franchise และสิ่งที่ Happy Franchise มีมากกว่าคนอื่น คือ การมีนวัตกรรมที่จะสร้างความแตกต่าง และเปลี่ยนแปลงวงการก่อสร้างของประเทศไทย สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรม คือ การสร้างบ้านสำเร็จรูป และ Happy were house นอกจากนี้ ยังมี Happy Residence ที่สุดยอดมาก ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนสนใจมาคุยกับเราจำนวนมาก
นายธีรพันธ์ กล่าวว่า ความแตกต่างของ Happy Franchise ด้วยมีวัสุดที่ทนทาน มีผนังรูปแบบใหม่ที่คงทน มีน้ำหนักเบา ประหยัดค่าใช้จ่าย มีความรวดเร็ว พร้อมตอบโจทย์ทางธุรกิจที่ต้องจำกัดในเรื่องเวลา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเกิดขึ้น แน่นอนว่าต้องมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่การทำ Happy Residence เป็นที่อยู่อาศัย หรือห้องเช่า อย่างในพัทยา มีลูกค้าที่จะสร้างโรงแรมรับนักท่องเที่ยวจีน เขาก็สนใจ Happy Residence เรามาก เพราะสามารถทำเสร็จได้ภายในเวลาจำกัด ลูกค้าก็จะได้ทุนคืนจากการเปิดกิจการเช่นกัน และ Happy Residence ไม่ใช่แค่การทำโรงแรม แต่สามารถทำอาคารพาณิชย์ หรืออาคารต่าง ๆ ได้ครอบคลุมครบวงจร
“ตลาดของ Happy Franchise ตอนนี้สามารถขยายไปได้เป็นอย่างดี เป็นการตอบโจทย์ในทุกแง่มุม อย่างที่เมืองย่างกุ้ง ก็มีคนสนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย เพราะเราเปิดโอกาสให้คนลงทุนไม่ว่าเงินหลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้านก็ทำได้ ผลประกอบการที่ผมทำมายังไม่ครบ 2 ปี ขายได้กว่า 40 ล้านบาท สำหรับคนที่สนใจจริง ๆ สามารถทำได้ ถามว่ามองธุรกิจ Happy Franchise เป็นอย่างไร ผมมองว่าเป็นขาขึ้นสุด ๆ และจะไปได้มากกว่านี้” นายธีรพันธ์ กล่าว
ขณะที่นายธีระชัย ศรีสุขใส หุ้นส่วนผู้จัดการ Happy Franchise จ. ภูเก็ต มองว่า สำหรับเรื่องความปลอดภัยของ Happy Franchise เรามีการทดลองวัสดุที่ใช้ ซึ่งสามารถตอบโจทย์เรื่องความแข็งแรงทนทาน นั่นเป็นนวัตกรรมที่แตกต่าง รวมถึงการสร้างที่มีความรวดเร็ว ทั้งการคำนวณราคา การทำสัญญา และขณะนี้ตลาดการทำบ้านสำเร็จรูปขยายตัว และเติบโตไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองนอกก็เติบโตไปมาก ขณะที่เมืองไทย คนก็ต้องการความรวดเร็ว การขยายตลาดในพื้นที่ จ. ชลบุรี เพื่อรองรับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ตนมองเห็นว่าเป็นการรองรับคนที่เคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่ในพื่นที่ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาพักอยู่ในไทยก็สามารถซื้อได้ ดังนั้น Happy Franchise สามารถแยกย่อยในรูปแบบบ้านต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ ที่ภูเก็ตก็มีให้ทำในรูปแบบสำนักงานขาย ทำกุฎิพระก็มี หรือทำรีสอร์ต ทำอาคารพาณิชย์ ฉะนั้น บ้านสำเร็จรูปสามารถทำได้ในทุกเรื่องของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นการสร้างบ้านตามพฤติกรรมของคน อย่างไรก็ตาม เวลานี้ Happy Franchise มีความพร้อมหมดทุกด้าน และใน 70 จังหวัดก็ตั้งเป้าว่าจะต้องมีได้ครบทุกจังหวัด นอกจากนี้ ตัวแทนจำหน่ายยังสามารถทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียได้ง่าย ด้วยระบบโครงสร้างของผลตอบแทนที่ทำไว้เป็นอย่างดี