xs
xsm
sm
md
lg

SIRI เผย Q4/60 เปิดตัว 11 โครงการใหม่ 26,000 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เศรษฐา ทวีสิน
แสนสิริ จุดพลุรับไฮซีซันไตรมาส 4/60 เปิด 11 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 7 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ตั้งเป้าขายไตรมาสสุดท้าย 16,000 ล้านบาท แจง 9 เดือนยอดขายรวม 24,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้ากว่า 20% ลุ้นทั้งปีทะลุเป้า 40,000 ล้านบาท ล่าสุด ปิดการขาย เดอะ เดค ป่าตอง คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ตใจกลางป่าตอง ภูเก็ต มูลค่า 1,500 ล้านบาท

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) กล่าวว่า ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของทุกปี จะเป็นช่วงที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในปีนี้ที่สัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และภาพรวมเศรษฐกิจในปี 60 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-4% จากปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ และภาคการท่องเที่ยว ที่เติบโตต่อเนื่อง จึงจะทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ และตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น

โดยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 7 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท โดยแผนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาภายใต้บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง จำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งให้ในปีนี้ แสนสิริพัฒนาที่อยู่อาศัยได้รวมทั้งสิ้น 19 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 44,700 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้

สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือน แสนสิริมียอดขายแล้วกว่า 24,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นจากรอบ 9 เดือนของปีก่อน ซึ่งมียอดขายรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท เกือบ 20% โดยยอดขายในรอบ 9 เดือนของปีนี้มาจากยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 14,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ ประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทิศทางการตอบรับด้านที่อยู่อาศัยของลูกค้าในปัจจุบัน ให้การตอบรับที่อยู่อาศัยที่ตรงกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น

“ความสำเร็จของคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เฮาส์” (HAUS) ที่ผ่านมาทั้ง 3 โครงการ คือ ฮาสุ เฮาส์ และ โมริ เฮาส์ ที่ปิดการขายแล้วทั้ง 2 โครงการ และล่าสุด คือ ทากะ เฮาส์ ซึ่งเปิดการขายในเดือนกันยายนที่ผ่านมา และลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมากทั้งจากลูกค้าคนไทย และต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าชาวญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ จากการเป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นอย่างดี ส่งผลให้มียอดขายทะลุไปแล้วถึง 95% แสนสิริ จึงเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เฮาส์ อีก 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 8,600 ล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน”

นอกจากนี้ ล่าสุด บริษัทยังสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เดค ป่าตอง (THE DECK) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ที่สามารถตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาดที่พักอาศัยในรูปแบบฮอลิเดย์โฮมในทำเลป่าตอง ภูเก็ต ได้เป็นอย่างดี ทั้งจากลูกค้าคนไทยที่ซื้อเพื่อตอบโจทย์ด้านการลงทุนจากการที่ตลาดปล่อยเช่า อาทิ อพาร์ตเมนต์ปล่อยเช่าในทำเลป่าตอง ได้รับการตอบรับที่ดี และจากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาทำงาน หรือเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ และพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง ซึ่งเป็นชายหาดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และมีชื่อเสียงในระดับโลก โดยโครงการได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าคนไทย และชาวต่างชาติ ในสัดส่วน 49 ต่อ 51%

ทั้งนี้ แสนสิริตั้งเป้าว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมียอดขายเข้ามาเพิ่มกว่า 16,000 ล้านบาท จากความสำเร็จในการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งที่อยู่อาศัยโครงการต่าง ๆ ซึ่งได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจน ทั้งนี้ จากแผนการพัฒนาโครงการที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึงไฮไลต์ทางธุรกิจที่สำคัญที่เตรียมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ทำให้มั่นใจว่า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่มีการปรับเป็น 40,000 ล้านบาท
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น