“เจ้าสัวกึ้ง” ฟุ้งถึงคราว โทรีเซนไทย คืนชีพ เหตุเริ่มเห็นสัญญาณค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น คาดจะเริ่มชัดเจนภายใน 3 ปี เผยเตรียมเพิ่มเรือเทกองใหม่เข้าประจำการกองเรือ ซุ่มเจรจาเข้าซื้อกิจการและลงทุนเวนเจอร์แคปปิตอลทั้งในและต่างประเทศ
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินว่า อัตราค่าระวางเรือในอนาคตจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นอยู่ในทิศทางบวก และจะปรับตัวขึ้นดีขึ้นในระดับคงที่ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ค่าระวางเรืออยู่ที่ 1 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ ต่อลำต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 5.4 พันเหรียญสหรัฐฯ ต่อลำต่อวัน และคาดว่าจะคงอยู่ในระดับนี้จนถึงสิ้นปี 2560 เนื่องจากจากอุปสงค์ที่คงที่ และอุปทานมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 2-3% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้พลิกกลับมามีกำไรแล้วในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น โดยมองว่า ระดับค่าระวางเรือที่ 7.8 พันเหรียญสหรัฐฯ ต่อลำต่อวัน ถือเป็นจุดคุ้มทุนของบริษัทฯ
“บริษัทฯ เตรียมพิจารณาซื้อเรือเข้ามาเพิ่ม โดยคาดว่าจะสรุปแผนการซื้อเรือได้ภายในปีนี้จากไตรมาส 2/2560 บริษัทฯ ก็มีการซื้อเรือเข้ามาจำนวน 2 ลำ ทำให้ปัจจุบันมีเรือทั้งสิ้น 21 ลำ และได้มีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการ หรือ M&A และร่วมทุนเวนเจอร์แคปปิตอล หรือ JV ทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ชัดเจน ซึ่งหากมีการลงทุนเกิดขึ้น บริษัทฯ ก็ถือว่ามีเงินลงทุน และมองโอกาสจะออกหุ้นกู้เพิ่มอีก“”
อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการและการร่วมทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันนั้น เพื่อจะเข้ามาส่งเสริมธุรกิจเดิม และเป็นการกระจายฐานรายได้ โดยปัจจุบัน สัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจเดินเรือกว่า 30%, บมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ ในธุรกิจวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ รวมไปถึงพลังงาน 30%, บมจ. พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) ธุรกิจจำหน่ายปุ๋ย 20% และธุรกิจอาหารและอื่น ๆ 20% ส่วนร้านพิซซ่า ฮัท ที่บริษัทได้ซื้อกิจการมาก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายสาขา 3 ปีนี้ 2560-2562 เพิ่มขึ้นอีก 100 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 92 สาขา โดยใช้เงินลงทุนราวสาขาละ 7 ล้านบาท