xs
xsm
sm
md
lg

อัปเดตรายละเอียดแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

                                                ที่มา : money.cnn.com, infoquest.co.thและ fpo.go.th
    ดูเหมือนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.ทองคำจะเผชิญต่อบททดสอบต่อเนื่อง นับตั้งแต่การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ในวันที่ 19-20 ก.ย. โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง FED ประกาศแผนที่จะเริ่มปรับลดงบดุล และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้นี้ ก็ส่งผลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็พุ่งขึ้น และหนุนดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ

    แต่ก็ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะปัจจัยกดดันที่ 2 ก็ตามมาติดๆ ซึ่งได้แก่ การคาดการณ์ในเชิงบวกต่อแผนการปฏิรูปภาษีที่ดูเหมือนจะก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยในคืนวันพุธในระหว่างการกล่าวปราศรัยที่เมืองอินเดียนาโพลิส ซึ่ง CNN Money ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดแผนภาษีของทรัมป์ และวันนี้ YLG จะมาประมวลให้ผู้อ่านได้รับทราบว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลอย่างไรบ้าง

How individual taxes would change

a)Reduce individual income tax rates : ปรับลดอัตราฐานภาษี (Tax bracket) ของเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือเพียง 3 ขั้น คือ 12%, 25% และ 35% จากปัจจุบันที่ประกอบไปได้วย 7 อัตราฐานภาษี (Tax bracket) อันได้แก่ 10%, 15%, 25%, 28%, 33%, 35% และ 39.6%

b)Increase standard deduction : มีแผนที่จะให้หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา (Standard deduction) ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยคนโสดจะสามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ $12,000 และสำหรับผู้ที่สมรสจะหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ $24,000 จากเดิมที่มี Standard deduction สำหรับคนโสดที่ $6,350 USD และสำหรับผู้ที่สมรสที่ $12,600

c)Increase child tax credit : เพิ่มเงินลดหย่อนภาษีเพื่อสงเคราะห์บุตร

d)Get rid of valuable tax breaks : ยกเลิกระบบการนำค่าใช้จ่ายจากภาษีท้องถิ่นมาหนักลดหย่อนภาษีเงินได้ ซึ่งประกอบไปด้วย State and Local Tax เนื่องจากที่ผ่านมา การนำเงินค่าใช้จ่ายของภาษีท้องถิ่นมาหักลดภาษีเงินได้นั้น เป็นภาระทางด้านค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง (Federal tax expenditure) ซึ่งสำหรับปี 2017 รัฐบาลกลางต้องแบบรับภาระกว่า 96,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐที่มีฐานรายได้สูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต

e)Repeal the Alternative Minimum Tax : ยกเลิกระบบการชำระภาษีแบบทางเลือก (Alternative-Minimum Tax) เพื่อลดความซับซ้อนของของการคำนวณภาษี

f)Kill the estate tax : ยกเลิกภาษีกองมรดก โดยภาษีมรดกของสหรัฐฯ ปัจจุบันจัดเก็บจากกองมรดกที่มีมูลค่ามากกว่า 5.49 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐในอัตราภาษีที่ 40% โดยมีการเสนอให้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีมรดก เนื่องจากเป็นภาระต่อทายาทของเจ้ามรดก

How business taxes would change
A.Cut corporate tax rate to 20% : ปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลสหรัฐฯ ให้เหลือ 20% จากเดิมที่จัดเก็บอยู่ที่อัตรา 35%

B.Drop tax rates on small businesses and other pass-throughs : ปรับลดฐานภาษีที่สูงที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และ Pass-Through businesses ซึ่งหมายถึงธุรกิจเจ้าของคนเดียว และห้างหุ้นส่วนประเภทต่างๆ มาที่ระดับ 25% จากเดิม 39.6%

C.Change how U.S. multinationals are taxed : เปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีสำหรับบริษัทข้ามชาติของสหรัฐฯ ใช้ระบบจัดเก็บภาษีภายในเขตแดนกับบริษัทอเมริกันทั่วโลก เพื่อดึงดูดองค์กรธุรกิจสหรัฐฯ ให้กลับมาดำเนินงานในสหรัฐฯ
 

     นอกจากนี้ จะมีการเสนอให้เรียกเก็บภาษีจากผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทข้ามชาติสหรัฐฯ ในอัตราลดหย่อน เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเหล่านั้นโยกย้ายผลกำไรไปยังที่พักหลบภาษีในต่างแดน (tax haven)
 

     สเต็ปต่อไป คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) และคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภา จะพัฒนาร่างกฎหมายดังกล่าวต่อ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า แผนปฏิรูประบบภาษีใหม่นี้จะมีมูลค่าในทางเศรษฐกิจเท่าใด อีกทั้งแผนการดังกล่าวอาจต้องเผชิญกับความยากลำบากในการผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส เพราะว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันดูเหมือนแตกแยกกันต่อร่างกฎหมายนี้ และสมาชิกสภาคองเกรสพรรคเดโมแครตต่อต้านร่างกฎหมายนี้ หนังม้วนยาวนี้ยังคงต้องตามต่อไป แต่ที่แน่ๆ หากความหวังยังคงอยู่ก็อาจเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ และสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งจะกดดันราคาทองคำต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น