xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอ็นเอ 2002” เพิ่มวัตถุประสงค์ลุยธุรกิจเทคโนโลยี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บอร์ด “ดีเอ็นเอ 2002” ให้เพิ่มวัตถุประสงค์ เดินหน้าธุรกิจเทคโนโลยี ส่ง “ไว เทค อินเตอร์เนชั่นแนล” เป็นทัพหน้าลุยธุรกิจไอที เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่เพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมขายหุ้นสตรองเทค เอ็นเนอร์จี 3-เฮลธ์ตี้ เบสท์ รับทรัพย์เฉียด 2 ล้านบาท “สามารถ ฉั่วศิริพัฒนา” ลั่น บริษัทฯ ยังมองหาคู่ค้า และพันธมิตรจากต่างประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ส่งซิกผลงานครึ่งหลังปี 60 มีลุ้นพลิกมีกำไร

นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา มีมติให้สัตยาบรรณในการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ โดยให้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสามารถทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ และให้เปลี่ยนชื่อ และตราประทับบริษัทจาก บริษัท พี เพาเวอร์ แพลนท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PPE) เป็น บริษัท ไว เทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ทั้งนี้ DNA พร้อมจะเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยล่าสุด ได้เข้าร่วมลงนามในสัญญา IT Service Agreement กับ Dragon Corporation (HK) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศฮ่องกง สำหรับการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยี Service Provider เพื่อดูแลกลุ่มลูกค้าให้กับ Dragon Corporation (HK) Limited ซึ่งบริษัทมีส่วนงานที่ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาโปรแกรมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งการลงนามดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของกลุ่มบริษัท และเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต

“เรายังคงมองหาคู่ค้า และพันธมิตรจากต่างประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการวางระบบแผนลงทุนขยายธุรกิจไปยังธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data center) ระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) รวมถึงการพัฒนาระบบสื่อสารผ่าน Application ขณะที่ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มปัจจุบันมีการดำเนินการให้ให้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และอยู่ระหว่างศึกษาวางระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับภาคธุรกิจโรงแรม”

นายสามารถ กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ว่า มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นมีกำไร เนื่องจากบริษัทดี เอ็น เอ รีเทลลิงก์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารประเภทโทรศัพท์มือถือ ภายใต้ร้าน “KingKongPhone” สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี และมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ผลประกอบการในภาพรวมของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขาดทุนลดลงเหลือเพียง 46.59 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 127.02 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติให้จำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท เฮลธ์ตี้ เบสท์ จำกัด (HB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท บัน จำกัด (BUN) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 60.00 ของทุนจดทะเบียน โดยที่ BUN เป็นบริษัทย่อย ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 69.50 ของทุนจดทะเบียน ให้แก่ นายธนอรรถ ตรีธิติธัญ ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคารวม 1,500,000 บาท และจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท สตรองเทค เอ็นเนอร์จี 3 จำกัด (ST3) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ดีเอ็นเอ เน็ทเวิร์ค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (DNE) ร้อยละ 99.97 ของทุนจดทะเบียน โดยที่ DNE เป็นบริษัทย่อย ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.97 ของทุนจดทะเบียน ให้แก่นายศุภกร ตานะเศรษฐ ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคารวม 249,925 ส่วนการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท สตรองเทค เอ็นเนอร์จี 3 จำกัด (ST3) และบริษัท เฮลธ์ตี้ เบสท์ จำกัด (HB) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และเพื่อให้การบริหารจัดการภายในกลุ่มบริษัทมีความคล่องตัวในภาพรวม และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น