xs
xsm
sm
md
lg

คลังจัดเก็บรายได้ 11 เดือนปีงบ 60 ทำได้กว่า 2 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระทรวงการคลังเผยยอดเก็บรายได้ 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2560 ทำได้กว่า 2 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2559 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในภูมิภาคดีขึ้นทุกภาค

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวง การคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (เดือนตุลาคม 2559 -เดือนสิงหาคม 2560) ว่ารัฐบาลมีรายได้นําส่งคลังทั้งสิ้นจำนวน 2,088,231 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,900 ล้านบาท อย่างไรก็ตามรายได้นำส่งคลังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2559 จำนวน 59,084 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.8) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากรายได้พิเศษจากการประมูลคลื่นความถี่ 3G 4G และเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต TV Digital ในปีก่อน แต่หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้นำส่งคลังปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน จำนวน 77,677 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9

ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,679,296 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 93.3 ของงบประมาณประจำปี 2560 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 462,681 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 มีจํานวนทั้งสิ้น 315,392 ล้านบาท

ทั้งนี้ เงินคงคลังในปัจจุบันที่มีจำนวนกว่า 315,000 ล้านบาท และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2559 อยู่ประมาณ 12,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงฐานะการคลังที่เข้มแข็งและพอเพียงสำหรับการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงต่อไป

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนกันยายน 2560 ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังร่วมกับกรมบัญชีกลาง โดยสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศพัฒนาเครื่องมือติดตามภาวะเศรษฐกิจใหม่ เพื่อสะท้อนการคาดการณ์กิจกรรมทางเศรษฐกิจรายภูมิภาคในอนาคต (6 เดือนล่วงหน้า) จากการรวบรวมข้อมูลตรงของทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผลการสำรวจล่าสุดประจำเดือนกันยายน 2560 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในระดับที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ซึ่งอยู่ที่ 87.9 จากดัชนีแนวโน้มที่ดีขึ้นของภาคบริการ ซึ่งอยู่ที่ 97.7 โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่พบว่าหลายจังหวัดเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนภายในภูมิภาค ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง ตามความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มการลงทุนอยู่ในระดับสูงที่ 98.6

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ 82.2 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากด้านการท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากหลายจังหวัดในภูมิภาคจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มภาคบริการของภูมิภาค ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 97.6 ประกอบกับแนวโน้มด้านการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนมีทิศทางที่ดี ตามจำนวนโรงงานที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับแนวโน้มของการผลิตภาคบริการ อุตสาหกรรม และการลงทุนภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงส่งสัญญาณดีขึ้น ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ 75.7

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ 74.9 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการ ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 85.1 โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวและค้าปลีกค้าส่งที่มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากหลายจังหวัดจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลการท่องเที่ยว รวมถึงภาคเกษตรที่มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ 71.3 ตามแนวโน้มที่ดีของภาคบริการ นำโดยการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ จากแนวทางการสนับสนุนของนโยบายภาครัฐ เช่นเดียวกับแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมภายในภูมิภาค สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ 70.6 ตามแรงสนับสนุนจากแนวโน้มของภาคการจ้างงานภายในภูมิภาค ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีที่ 86.7 จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายจังหวัดและแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักของภูมิภาค นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม.และปริมณฑล ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 61.5 จากแนวโน้มในภาคการจ้างงาน ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 81.8 เนื่องจากภาคการผลิตมีการเพิ่มกำลังการผลิต
กำลังโหลดความคิดเห็น