คลังเตรียมหารือกระทรวงมหาดไทย ส่งเสริมผู้สูงอายุรายได้สูงไม่รับเบี้ยยังชีพ คาดสรุปตัวเลขเดือนตุลาคมนี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการสละสิทธิ การขอคืนสิทธิ เมื่อมีความจำเป็น กระบวนการทำงานร่วมกันในการจัดกิจกรรม เพื่อรณรงค์ร่วมกับหลายหน่วยงาน คาดว่าจะเสร็จเร็ว ๆ นี้
หลังจากนายกรัฐมนตรีเร่งรัดให้กระทรวงการคลังสรุปตัวเลขผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง รายได้สูง เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ขอความมือแบบสมัครใจมีความประสงค์จะไม่รับเบี้ยผู้สูงอายุเมื่อครบ 60 ปี เพื่อแบ่งปันเงินไปให้ผู้สูงอายุรายได้น้อย เอาไว้ใช้จ่ายประคองชีวิตบั้นปลาย จากปัจจุบันมีผู้รับเบี้ยคนชรา 8 ล้านคน เมื่อดูจากยอดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย พบว่า คนชรารายได้ยอดสูงถึง 3 ล้านคน จึงมุ่งหวังให้คนชราพออยู่พอกินแบ่งปันบางส่วนให้คนรายได้น้อย
เพื่อร่วมกันช่วยเหลือผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อยช่วยเหลือตนเองอย่างลำบาก โดยผู้สูงอายุตั้งแต่ 60-70 ปี ได้รับเบี้ย 600 บาท ช่วงอายุ 70-80 ปี ได้รับเบี้ย 700 บาท ช่วงอายุ 80-90 ปี ได้รับเบี้ย 800 บาท และอายุตั้งแต่ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ย 1,000 บาท คนชราได้รับเบี้ยยังชีพ 600-1,000 บาทต่อเดือน รัฐบาลมองว่า ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับค่าครองชีพยุคปัจจุบัน และเพื่อบรรเทาภาระงบประมาณ จึงใช้แนวทางช่วยเหลือผ่านกองทุนผู้สูงอายุ โดยการนำภาษีจากสุรายาสูบ ร้อยละ 2 จัดสรรเข้ากองทุนผู้สูงอายุเหมือนกับกองทุน สสส., ไทยพีบีเอส, กองทุนสนับสนุนการกีฬา เพื่อนำรายได้ส่งเข้ากองทุนเพิ่มให้กับผู้สูงอายุรายได้น้อย ภายในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะสรุปตัวเลขผู้สูงอายุที่ต้องการสละสิทธิรับเบี้ยผู้สูงอายุ