โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส เล็งตั้งบริษัทย่อยขยายไลน์ธุรกิจบริหารจัดการอาคาร ออกสตาร์ทต้นปี 61 ขณะที่ธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการแนวโน้มดี ยื่นประมูลงานภาครัฐ-เอกชนต่อเนื่อง ตุน Backlog 461 ล้านบาท มั่นใจเติบโตตามเป้าหมาย 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%
ดร. พงศ์ธร ธาราไชย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติมด้านงานบริหารจัดการอาคาร โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาจากคณะกรรมการบริษัทในการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษางบประมาณลงทุน คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานและรับรู้รายได้ภายในช่วงต้นปี 2561
“PPS ดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการ ซึ่งมีการบริหารควบคุมการก่อสร้างเป็นหลัก โดยบริษัทเห็นถึงโอกาสในการขยายขอบเขตการทำงานในธุรกิจดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรับงานได้ทั้งในช่วงก่อนการก่อสร้าง และช่วงการใช้งานอาคาร บริษัทจึงมีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทย่อยในการประกอบธุรกิจด้านบริหารจัดการอาคาร ครอบคลุมไปถึงการบริการทางด้านพลังงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งปัจจุบันเป็นระบบที่มีความจำเป็น และมีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า ธุรกิจใหม่ของบริษัทจะสามารถส่งเสริมให้ผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต” ดร. พงศ์ธร กล่าว
ส่วนธุรกิจหลักด้านวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการยังมีแนวโน้มที่ดี จากการผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ ที่ทยอยอนุมัติโครงการต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทเตรียมความพร้อมในการประมูลงานของทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยปัจจุบัน บริษัทมี Backlog อยู่ที่ 461 ล้านบาท มั่นใจว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถเติบโตได้ 20% และรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 15%
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/60 บริษัทมีรายได้รวม 96.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 69.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38.46% และมีกำไรสุทธิ 19.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 947.81% ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 190.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 132.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.67% และมีกำไรสุทธิ 33.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 413.45% โดยผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัททยอยรับรู้รายได้จากโครงการที่ดำเนินงานในช่วงต้นปีที่ผ่านมา